นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีแรงงานไทยทำงานอยู่ในรัฐอิสราเอล 13,546 คน ส่วนใหญ่เดินทางไปทำงานด้วยวิธีกรมการจัดหางานจัดส่ง แจ้งการเดินทางด้วยตนเอง และบริษัทจัดหางานจัดส่ง ตามลำดับ โดยรัฐอิสราเอลเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการจัดส่งโดยรัฐ ผ่านโครงการความร่วมมือไทย-อิสราเอล เพื่อการจัดหางาน (Thailand - Israel Cooperation on the Placement of Workers : TIC) เพื่อไปทำงานภาคเกษตร มีระยะเวลาการจ้างงานตามสัญญาจ้าง 2 ปี ต่อได้ไม่เกิน 5 ปี 3 เดือน รายได้เฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 5,880 เชลเกล คิดเป็นเงินไทยประมาณ 60,000 บาทต่อเดือน ที่ผ่านมา (ตั้งแต่ปี 2564 - 2566) มีการจัดส่งแรงงานผ่านโครงการ TIC แล้วถึง 18,439 คน ประมาณการรายได้อย่างน้อย 67,879 ล้านบาท
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 กรมการจัดหางานได้ประกาศยกเลิกชะลอการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในรัฐอิสราเอล ทุกวิธีการเดินทาง และความพร้อมที่จะส่งแรงงานไทยไปทำงานในรัฐอิสราเอลอีกครั้ง เนื่องจากแรงงานไทยยังมีความต้องการไปทำงานที่อิสราเอลเพราะมีรายได้สูง นายจ้างเองก็ต้องการแรงงานไทยเป็นจำนวนมาก เพราะคนไทยมีความเชี่ยวชาญด้านการเกษตร มีความรับผิดชอบ และมีความอดทนสูง นอกจากงานภาคเกษตรแล้ว งานภาคก่อสร้างในรัฐอิสราเอลยังเป็นอีกโอกาสสำคัญของแรงงานไทย เพราะทราบว่านายจ้างมีความต้องการมากถึง 20,000 อัตรา ในเร็ว ๆ นี้จึงเป็นโอกาสดีที่คณะผู้บริหารกระทรวงแรงงานจะเดินทางไปรัฐอิสราเอลเพื่อเจรจาเพิ่มโควตาให้กับแรงงานไทยสามารถไปทำงานได้เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งเยี่ยมเยียนแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในรัฐอิสราเอล เพื่อดูแลความเป็นอยู่ สภาพการทำงานและความปลอดภัยในการทำงาน
ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า หลังจากที่กรมการจัดหางานได้ประกาศ “ยกเลิกการชะลอการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในรัฐอิสราเอล ทุกวิธีการเดินทาง” ได้ติดตาม และประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐอิสราเอล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง โดยจะเชิญหน่วยงานด้านการทหารมาให้ความรู้เรื่องแนวปฏิบัติ/รับมือ สถานการณ์ฉุกเฉิน/ภาวะสงคราม แก่คนหางานก่อนเดินทางไปทำงานรัฐอิสราเอล และเชิญบริษัทจัดหางานที่จัดส่งแรงงานไปทำงานในรัฐอิสราเอล มารับทราบแนวปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อแรงงานไทยมากที่สุด ทั้งนี้ สามารถติดตามข่าวสารของกรมการจัดหางาน ผ่านเว็บไซต์ doe.go.th หรือทางเพจเฟซบุ๊ก กรมการจัดหางาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694