ในวัย 58 ปี ใช้พื้นที่กว่า 2 ไร่ เลี้ยงหมูป่า ปลูกพืชผัก ผลไม้ผสมผสาน สร้างรายได้ตลอดทั้งปี มีชีวิตอยู่อย่างพอเพียงแต่มีความสุข
นายบุญส่ง ชัยเสน ในวัย 58 ปี ยึดแนวพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียง ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับพื้นที่กว่า 2 ไร่ หลังบ้านพักเลขที่ 91/1 บ้านตรอกปลาไหล ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มาทำเกษตรแบบผสมผสาน เลี้ยงหมูป่าปลูกพืชผักผลไม้ โดยแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกใช้เปนที่เลี้ยงหมูป่าแบบเปิดให้หมูมีพื้นที่เหมือนธรรมชาติ ส่สนพื้นที่อีกส่วน ทนายบุญส่ง ใช้เป็นพื้นที่ปลูกพืชผัก และไม้ผลเป็นการผสมผสาน
นายบุญส่งบอกว่า เริ่มแรกตนซื้อพ่อพันธุ์แ ม่พันธุ์หมูป่ามา 1 คู่ มาทำการขยายพันธุ์ เพื่อเพิ่มประชากรหมู โดยช่วงแรกจะไม่ขายจนกระทั่งมีปริมาณมากตามต้องการก็จะแบ่งขาย รวมระยะเวลาที่เลี้ยงก็ตกอยู่ 20 ปีลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำที่ซื้อขายกันมายาวนาน เพราะรู้ว่าตนเลี้ยงแบบธรรมชาติจริงๆให้กินหัวผักหัวมันไม่ใช่เลี้ยงด้วยหัวอาหารบางส่วนเป็นผักที่แม่ค้าในตลาดให้มาเป็นอาหารหมูปัจจุบัน หมูป่าราคาหน้าฟาร์มกิโลละ 80 บลาท จะถ้าซื้อขายเป็นตัวตามขนาดก็จะตกลงกันที่ตัวละ 1.000 ถึง 1.200 บาท
ส่วนพื้นที่ที่เหลือเป็นแปลงเกษตรแบบผสมผสานไม้ยืนต้นกับพืชผัก ไม้ยืนต้นปัจจุบันมีกระท้อนพันธุ์ปุยฝ้ายซึ่งจะมีรสชาติอร่อยหวาน ไว้จำนวน 6 ต้น ทุเรียนอีก 13 ต้น พืชผักก็มีทั้งมะนาว มะกรูด ส้มเช้ง มะละกอ และอีกหลายอย่างจนเต็มพื้นที่ ช่วงนี้เป็นช่วงกระท้อนออกผลเก็บขายได้ทุกวัน โดยมีพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดสั่งเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้มีรายได้วันละ 500 - 600 บาท ถือว่าอยู่ได้อย่างสบายๆไม่เดือดร้อนเพราะมีเงินเข้ามือทุกวัน
นอกจากเป็นเกษตรกรที่เดินตามทฤษฎีของพ่อหลวงแล้ว นายบุญส่ง หรือลุงบุญส่ง คนนี้ ยังใช้เวลาที่แทบจะไม่มีแล้วมานั่งขายดอกไม้ และพวงมาลัย ที่ตลาดเม่งหลี กบินทร์บุรี เป็นประจำทุกวันอีกด้วย ใครที่เห็นความขยันของนายบุญส่ง หรือลุงส่งจะช่วยอุดหนุน หมูป่า ผักผลไม้ ดอกไม้พวงมาลัย หรือพูดคุยได้ที่ ตลาดเม่งหลี กบินทร์บุรี ได้ทุกวัน
ธนปกรณ์ วิศวามิตร / ปราจีนบุรี
081-2863615