ชาวนาเจอภัยแล้ง ไถว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวด้วยเครื่องป่นเมล็ดพันธุ์ข้าวลงแปลงนาบนพื้นดินที่ไม่มีน้ำ พร้อมกลบไถกลบเมล็ดพันธุ์ป้องกันสัตรูพืช เผย ทำนาสมัยใหม่ลดต้นทุนการปลูกข้าวได้ กว่า 70 % ทำนา 30 ไร่ 2 คน 2 วัน เสร็จภาระกิจ
(29 พ.ค.67) นายสุพันธุ์ นีระพันธุ์ อายุ 59 ปี และบุตรเขย ชาวนาบ้านหนองหญ้าปล้อง ต.ยอดแกง อ.นามน จ..กาฬสินธุ์ ช่วยกันเร่งมือทำนาบนเนื้อที่กว่า 30 ไร่ บนพื้นนาที่แห้งแล้งไม่ม่น้ำเพียงหยดเดียว ด้วยการแบ่งหน้าที่กันทำโดยให้บุตรเขยเป็นคนขัขรถไถ ไถปั่น-กลบเมล็ดพันธุ์ข้าว หลัง จากที่ นายสุพันธุ์ นำเครื่องพ่นเมล็ดพันธุ์ข่าว พ่นว่านเมล็ดพันุ์ข้าวเนียว กข.6 ลงบนแปลงนา ซึ่งได้ไถกลบเตรียมดินไว้ก่อนหน้า หลังจากมีฝนตกลงมาครั้งแรกของปี แต่ได้ทิ้งช่วงไปจึงต้องเจอกับภัยแล้ง
นายสุพันธุ์ เปิดเผยว่า การทำนา ด้วยการไถว่านโดยไม่ต้องรอน้ำฝน เป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำนาแบบเดิมปักดำ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง เพราะขั้นตอนการทำนาหลายขั้นตอน ไหนจะต้องจ้างวานให้ชาวบ้านมาช่วยถอนต้นกล้า ก่อนปักดำจะต้องรอให้มีน้ำฝนตกลงมาบนพื้นนาก่อนจึงจะปักดำได้ ซึ่งหากไม่มีน้ำเมื่อปักลงไปต้นกล้าก็จะแห้งตาย ส่วนขั้นตอนการปักดำยังต้องจ้างคนมาช่วยปักดำอีก ซึ่งแต่ละขั้นตอนย่อมมีค่าใช่จ่ายทั้งสิ้น และยังเสี่ยงต่อการปักดำล่าช้าออกไปอีกหากฝนไม่ตกลงมาตามฤดูกาล
แตกต่างจากการทำนาแห้ง เมื่อถึงเวลาเราเพียงไถกลบเตรียมดินทิ้งไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ จากนั้นก็มาไถ-พ่นว่าน แล้วไถปั่นกลบเมล็ดพันธุ์ข้าว เพื่อป้องกันสัตรูพืช ใช้คนทำงานเพียง 2 คน ทำนาจำนวน 30 ไร่ ทำ 2 วันก็แล้วเสร็จ ลดขั้นตอนการทำนา และลดค่าใช้จ่ายจากการทำนาแบบเดิมๆไปได้กว่า70%
เมื่อถึงเวลาที่ฝนตกลงมา เมล็ดพันธุ์ข้าวแตกหน่อออกต้นกล้าได้อย่างแข็งแรงปลอดภัยจากหอยเชอรี่มากัดกิน เพียงแต่เฝ้าคอยดูแลใส่ปุ๋ย ป้องกันสัตรูพืชจะมากัดกินต้นข้าวไปจนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ โดยคาดว่า หากน้ำฝนตกดีตามฤดู คาดว่าทำนา 30 ไร่ จะได้ข้าวไม่น้อยกว่า 15 ตัน