ผู้รับเหมา สุดทน ร่อนหนังสือขอความเป็น ถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวลล้อม ถูกทรัยพยากรน้ำ เบี้ยวจ่ายเงินค่าขุดขน โครงการขุดลอกบึงขายเปี้ย จ.บึงกาฬ กว่า 6 แสนคิว มูลค่า14.9 ล้าน ทั้งที่ในใบปริมาณงานระบุ ราคาค่างานต่อหน่วย มีอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เซ็นลงนามในสัญญาว่าจ้าง ชัดเจน ช่างควบคุมงานสั่งรื้อบดอัดใหม่ซ้ำซาก เคยส่งหนังสือชี้แจงปัญหาอุปสรรค์งานทำ ต่อคณะกรรมการตรวจรับงาน แต่ยังนิ่งเงียบ วอนสือช่วยตามอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำออกมาเปิดปาก
(05 มิ.ย.67) นายภูกิจ วิจิตร์ กรรมการ หจก.แห่งหนึ่ง ใน จ.นครพนม ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชน ในการเรียกร้องขอความเป็นธรรม และฝากให้ช่วย อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ออกมาชี้แจง
กรณี กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง กับ หจก.แห่งหนึ่ง ใน จ.นครพนม รับเหมาขุดลอกบึงขามเปีย (โครงการอนุรักษ์พื้นฟูแหล่งน้ำบึงขามเปี้ย ตำบลโคกกว้าง อำเภอบุ้งคล้า จังหวัดบึงกาฬ) มูลค่าโครงการตามสัญญาจ้างเมื่อปี 2559 มูลค่าโครงการ 53 ล้านบาท
นายภูกิจ เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าว ผู้รับเหมาเริ่มนำเครื่องจักรเข้าไปลงมือทำการขุดลอกบึงขามเปี้ย ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.2559 ตามสัญญาครั้งที่ 1 ซึ่งทางผู้เหมา ได้ดำเนินการขุดขนบดอัดคันดินเสร็จไปแล้ว เป็นระยะทาง 6 กม.ขนดินบดอัดประมาณ 2 แสนกว่าคิว ใช้เวลา ประมาณ 3 เดือนเสร็จ จึงได้ส่งงวดงานเป็นครั้งแรกให้กับช่วงควบคุมงาน แต่ปรากฎว่าคณะกรรมการแจ้งยังตรวจรับงานให้ไม่ได้ โดยอ้างว่า ยังอยู่ระหว่างในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบ ก่อนโอนโครงการดังกล่าวไปให้สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 3 จ.อุดรธานี เป็นผู้รับผิดชอบโครงการแทน
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2560 สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 3 ได้แจ้งให้ทางห้างฯ ไปเซ็นต์แก้ไขสัญญาแก้ไขแบบครั้งแรก พร้อมกับหักค่างานที่ทำเสร็จไปแล้วมูลค่า 3,338,160.51 บาท เป็นระยะทาง 1 กม.โดยอ้างว่า กรมทรัพยากรน้ำ ก่อสร้างโครงการบุกรุกที่ดินของประชาชนในพื้นที บริเวณที่ขุดขนและบดอัดดินไปแล้ว โดยมีการแก้แบบ เหลือมูลค่าโครงการ จำนวน 49,661,838.49 บาท แต่เพื่อให้งานสามารถเดินต่อไปได้ด้วยดี ทางห้างฯ จึงยินยอมโดยไม่สมยอมให้หักเงินค่างาน พร้อมกับเซ็นสัญญาแก้ไขแบบดังกล่าว เพื่อจะได้ส่งงวดงานครั้งแรกได้
้
แต่ปรากฏว่า ถูกช่างควบงานคนใหม่ สั่งให้รื้องานที่ดำเสร็จไปแล้วทั้งหมด โดยให้ทำการบดอัดใหม่ เนื่องจากช่างควบคุมงานคนใหม่ไม่เห็นการทำงานที่ผ่านมา ซึ่งทางห้างได้ทำการรื้อบดอัดใหม่ทั้งโครงการจนแล้วเสร็จ เพื่อส่งงานงดแรกให้ได้ แต่ก็ส่งไม่ได้ เนื่องจาก อธิบดีคนใหม่ ได้เรียกโครงการดังกล่าวกลับเข้าไปบริหารที่กรมทรัพยากรน้ำเอง ในระหว่างนั้น โครงการไปมีความคืบหน้าเพราะต้องรอ แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจการจ้าง และช่างควบคุมงานคนชุดใหม่
หลังจากแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจการจ้าง และช่างควบคุมงานชุดใหม่แล้วเสร็จ เดือนตุลาคม ปี 2560 ผู้รับเหมาได้รับแจ้งว่า หากจะส่งงานต้องรื้อบดอัดใหม่ทั้งโครงการ จึงจะสามารถตรวจรับงานให้ได้ โดยอ้างว่า งานเก่ามองไม่เห็น เพราะไม่ได้อยู่ควบคุมงานด้วย เมื่อผู้รับเหมาทำงานการรื้อบดอัดใหม่เสร็จ แต่ก็ยังไม่ตรวจรับงานให้อยู่ดี โดยคณะกรรมการตรวจการจ้าง อ้างว่า แบบคาดเคลื่อน ไม่สามารถตรวจรับงานให้ได้ แต่กลับรับค่า ทีโออาร์ จำนววกว่าครึ่งล้านบาท แทนได้
ต่อมาเมื่อประมาณกลางปี 2561 กรมทรัพยากรน้ำได้ให้ไปเรียกเข้าไปประชุมที่กรมฯ คาดต้องการออกอุบายหักค่าขุดขน พร้อมกับออกหนังสือบังคับให้เซ็นต์สัญญาญาใหม่ ซึ่งทางผู้รับเหมาได้ทำหนังสืออุธรณ์ มาโดยตลอด แต่ไม่เคยได้รับหนังสือชี้แจงแต่อย่างใด ทางห้างฯ จึงได้เปลี่ยนวิธีส่งงาน ให้กับกรมทรัพยากรน้ำ ทางไปรษณีย์ เพื่อให้มีการลงรับไว้เป็นหลักฐาน ทางกรมทรัพยากรน้ำจึงทำหนังสื่อชี้แจ้งกลับมาว่า ไม่สามารถตรวจรับงานได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบ และแจ้งให้ทางห้างยืนยันรับราคาตามที่คณะกรรมการตรวจการจ้างกำหนด (ในราคาโครงการ จำนวน 36 ล้านบาทโดยไม่มีการแก้ไขแบบแต่อย่างใด) ซึ่งได้โกงค่าขุนขด จำนวน 14.9 ล้านบาท โดยให้เซ็นต์ยืนยันรับราคาตามที่คณะกรรมการตรวจการจ้างกำหนดภายใน15 วัน ม่ิฉะนั้นจะส่งเรื่องให้หัวหน้าภาคส่วน บอกเลิกสัญญาต่อไป หนังสือดังกล่าวลงนามโดย นายนิทัศน์ สุดดีพงษ์ ประธานกรรมการตรวจการจ้าง โครงการฯ หนังสือออกเมื่อปี 2562
ต่อมาเมื่อปี 2564 เดือนมกราคม ทางห้างได้รับแจ้งจากช่างควบคุมงานคนใหม่เรียกให้ไปเซ็นต์สัญญา เพื่อเข้าไปทำงาน พร้อมกับแจ้งให้ทำการรื้อบดอัดใหม่อีกครั้ง ซึ่งทางห้างก็ได้ดำเนินการตามที่ช่างควบคุมงานสั่งการ แต่คณะกรรมการตรวจการจ้าง ก็ยังไม่ได้ตรวจรับงาน เนื่องจากประสบปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19
ในปีเดียวกันประมาณพฤศจิกายน-เดือนธันวาคม. ช่างควบคุมงาน ได้สั่งให้ผู้รับเหมาทำการสูบน้ำออกจากไซต์งาน พร้อมกับตัดเผาหญ้า เพื่อให้ทำการก่อสร้างจุดใหม่ และทำการดึงสโล้บใหม่พร้อมกับบดอัดใหม่จุดที่จะส่งงาน แต่ก็เจอปัญหาการเปลี่ยนประธานกรรมการตรวจการจ้างคนใหม่อีก การตรวจรับงานจึงถูกระงับไปอีกครั้ง
กระทั้ง เดือนเมษายน ปี 2565 นายสรศักดิ์ ใจประเสริฐ ประธานกรรมการตรวจการจ้าง ได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ได้สั้งให้ผู้รับเหมาเข้าไปทำการดึงสโล้บบดอัดใหม่เฉพาะชั้นท็อป ก่อนตรวจรับงานอีกครั้ง แต่ทางห้างได้ทำการแก้ไขส่งงานเพียง 1 กม.เนื่องจากห้างฯ หมดเงินในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวแล้ว (ทั้งที่ทำเสร็จไป 6 กม.แต่ทำส่งไปเพียง 1 กม.เพราะไม่มีเงินเติมน้ำมันสำหรับแก้ไขงานที่ซ้ำๆซากๆ)
ต่อมา ได้มีประชาชนในพื้นที่ ร้องเรียน โครงการไปยัง ผู้ว่าร้าชการจังหวัดบังกาฬ และป.ป.ช.จ.บึงกาฬ ว่าชาวได้รับผลกระทบ จากการล่าช้าของโครงการ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ เสียโอกาสทางการเกษตร จึงนำไปสู่การตรวจสอบโครงการ โดย ป.ป.ช.บึงกาฬ พบข้อเท็จจริงว่า กรมทรัพยากรน้ำ ยังไม่เคยตรวจรับงาน และยังไม่เคยเบิกจ่ายค่างวดงานที่ส่งงานให้กับผู้รับเหมาแม้แต่ครั้งเดียว
แต่หลังจากคณะกรรมการครวจการจ้างทราบว่า เรื่องดังกล่าวถูกร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช.จ.บึงกาฬ ทางคณะกรรมการตรวจการจ้าง จึงลงมาตรวจรับงาน และได้แจ้งให้ทางห้างฯ ทราบ ว่าการตรวจรับงานในครั้งนี้ ทางห้างฯ จะไม่ได้เงิน เนื่องจากโครงการนี้ เงินตกพับไปแล้ว
ล่าสุด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา นายสรศักดิ์ ใจประเสริฐ ประธานกรรมการตรวจการจ้าง ได้ออกมาตรวจสอบหน้างาน พร้อมกับให้คำแนะนำผู้รับเหมา ถึงปัญหาอุปสรรคของโครงการ โดยแนะนำให้ทางผู้รับเหมา ทำหนังสือชี้แจงปัญหาอุปสรรค ที่การทำงานล่าช้า โดยต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อที่จะนำไปเสนอปัญหา และหาแนวทางแก้ไขให้กับผู้ประกอบในที่ประชุมคณะกรรมการตรวจการจ้าง ซึ่ง นายสรศํกดิ์ ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา แต่จนถึงวันนี้ ทางผู้รับเหมา ก็ยังไม่ได้รับคำตอบหรือคำชี้แจงแก้ไข ให้กับทางผู้รับเหมา รับทราบแต่อย่างใด
ตนจึงอยากให้สื่อหนังสือพิมพ์ สื่อทีวี สื่อออนไลน์ ทุกแพ็ทฟอร์ม ของทุกสำนักข่าว ได้สอบถามไปยังกรมทรัพยากรน้ำ ให้เร่งดำเนินการชี้แจง และให้คำตอบที่เป็นธรรม ที่ถูกต้องตามระเบียบการบริหารสัญญาจ้าง กับทางห้างฯ โดยเร็ว..
นอกจากนี้ นายภูกิจ ยังได้ ทำหนังสือขอความเป็นธรรมในเรื่องดังกล่าวไปถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อม ส่งทางไปรษ์ณีย์ อีกด้วย