เพราะระบบประมูลงานที่ไม่สามารถกีดกันผู้รับเหมาได้ เตรียมชื่อส่งกรมบัญชีกลางขึ้นบัญชีดำ
วันนี้ นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา เปิดเผยถึงปัญหาการก่อสร้างของผู้รับจ้างในพื้นที่เมืองพัทยาที่ผ่านมา โดยเฉพาะการก่อสร้างปรับผิวจราจรบนถนนสุฃขุมวิทจำนวน 4 แยก ชัยพฤกษ์ วัดบุญกัญจนาราม ซึ่งดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว ขณะที่ปัจจุบันยังเหลือ แยกมอร์เตอร์เวย์และแยกพัทยาเหนือ ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นปัญหาและส่งผลกระทบอย่างมาก ทั้งการจราจร และภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว ด้วยโครงการยังคาราคาซังและก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามที่ได้กำหนดการในวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้เมืองพัทยาจึงทำการเปรียบเทียบปรับตามกฏหมายทันที
นายมาโนช กล่าวอีกว่าปัญหาของผู้รับจ้างนั้น สามารถแยกออกเป็น 2 กรณี ถ้าผู้รับจ้างทิ้งงานก่อสร้างเมืองพัทยาก็จะส่งเรื่องไปถึงกรมบัญชีกลาง หลังจากนั้นผู้รับจ้างที่ทิ้งงานจะถูกขึ้นบัญชีชื่อและไม่สามารถจะรับงานก่อสร้างของทางราชการได้อีกต่อไป แต่กรณีที่ผู้รับจ้างไม่ได้ทิ้งงาน แต่เกิดปัญหาคือความล่าช้าโครง การไม่เสร็จตามกำหนด ทำให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ใช้เส้นทางดังกล่าว ซึ่งถือเป็นถนนสายหลักในการสัญจร ด้วยเพราะมีการปิดกั้นถนนเป็นเวลานาน
เรื่องนี้เมืองพัทยาก็ได้เตือนผู้รับจ้างไปหลายครั้งแล้ว แต่ตามข้อกฏหมายแล้วเมืองพัทยาเองก็คงไม่สามารถจะไปบังคับผู้รับจ้างไม่ให้มารับงานของเมืองพัทยาได้ ด้วยเพราะมีการเปิดประมูลหาผู้รับจ้างในระบบ E-Bidding ที่กรมบัญชีกลางเป็นคนผู้ดำเนินการในการจัดซื้อจัดจ้าง
สำหรับระบบ E-Bidding นี้ผู้รับจ้างที่มีสิทธิ์สามารถยื่นชองได้ โดยจะมีกาบรหาผู้ที่ประมูลต่ำที่สุดจะได้รับเลือกเข้ามารับงานของภาครัฐ จึงทำให้ผู้รับจ้างที่เคยรับโครงการไปแต่เกิดปัญหาก็ยังสามารถเข้ามาประมูลงานได้ตามปกติ และเมืองพัทยาไม่สามารถทราบได้เลยว่าผู้รับจ้างที่กรมบัญชีกลางคัดเลือกมานั้นจะสามารถทำงานไห้เมืองพัทยาได้ดีขนาดไหน
อย่างไรก็ตามจากนี้จะมีการนำเสนอรายชื่อผู้รับจ้างไปยังกรม บัญชีกลางเพื่อทำการขึ้นบัญชีไว้ เพื่อกันไม่ให้ผู้รับจ้างเหล่านี้มารับงานของหน่วยงานราชการอีก ด้วยถือว่าเป็นผู้ที่ทิ้งงานและสร้างความเสียหายต่อโครงการพัฒนาหรือการลงทุนต่างๆด้วย