หนุนกรมส่งเสริมสหกรณ์เร่งพัฒนาสหกรณ์และสถาบันเกษตรกรในการกำกับด้วยโครงการเชิงรุก 4 โครงการ ทั้งแก้มลิงผลผลิตทางการเกษตรแก้ปัญหาผลผลิตล้นตลาดทั้งยาง ข้าว ข้าวโพด และมันสำปะหลัง ยกระดับธุรกิจสู่การแปรรูปผลผลิตสร้างมูลค่าเพิ่มโดยหนุนเสริมด้านเครื่องมือ เครื่องไม้
นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึง การดำเนินงานตามนโยบายรัฐในการยกระดับความเข้มแข็งของสหกรณ์และสถาบันเกษตรกรในกำกับว่า ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมสหกรณ์นำเสนอโครงการเพื่อการปฏิรูปภาคการเกษตรโดยกลไกสหกรณ์ เน้นสร้างเศรษฐกิจฐานราก และต้นทุนการผลิต
"โครงการทั้ง 4 โครงการมีเป้าหมายเพื่อหนุนเสริมความเข้มแข็งของเกษตรกร รวมทั้งตอบโจทย์ของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการเห็นสหกรณ์เป็นกลไกสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร และยังช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องผลผลิตล้นตลาด โดยการหนุนเสริมให้สหกรณ์ที่เข้มแข็งทำหน้าที่เป็น "แก้มลิง" ผลผลิตทางการเกษตร หมายถึงแหล่งรวบรวมและจัดเก็บผลผลิต ทั้งยางพาราที่ล้นตลาดอยู่ขณะนี้ หรือข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง สหกรณ์จะเป็นอีกหนึ่งแหล่งที่ดูดซับผลผลิตไปเก็บไว้ เป็นตัวช่วยเรื่องกลไกราคา เพิ่มอำนาจต่อรองให้กับเกษตรกร
นอกจากนั้นยังมีโครงการที่จะสนับสนุนด้านอุปกรณ์ เครื่องไม้ เครื่องมือเพื่อการแปรรูปผลผลิตเพื่อยกระดับราคาและสร้างอำนาจต่อรอง สหกรณ์และสถาบันเกษตรกรต่างๆ ก็จะสามารถเป็นหนึ่งในองค์กรที่แข่งขันได้ มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ สมาชิกก็จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น สองโครงการนี้หนุนเสริมด้านการตลาด ส่วนอีกสองโครงการจะเน้นเรื่องต้นทุนการผลิต ทั้งเมล็ดพันธ์และพันธุ์สัตว์ โดยเริ่มจากโคนมก่อน นั่นหมายความว่าสหกรณ์หรือสถาบันเกษตรกรซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของเกษตรกรอยู่แล้ว จะลุกขึ้นมาทำหน้าที่เป็นศูนย์รวบรวมเมล็ดพันธุ์ ทั้งพันธุ์พืชท้องถิ่น พันธุ์ดีดีสำหรับค้าขาย และจำหน่ายโดยเน้นเดินตามแนวทางของศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธุ์เพ็ญศิริ" นายวิวัฒน์กล่าว
ด้านนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ชี้แจงรายละเอียดของโครงการทั้ง 4 ว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้นำเสนอโครงการ 4 โครงการได้รับความเห็นชอบจาก รมช.วิวัฒน์แล้ว และเตรียมนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป โดยได้ประชุมทางไกลผ่านระบบดาวเทียมไปยังสหกรณ์จังหวัด รวมถึงผู้แทนของสหกรณ์การเกษตรและกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อทำความเข้าใจในรายละเอียด ข้อกำหนด หลักเกณฑ์ในการขอสนับสนุนงบประมาณเพื่อใช้ดำเนินงานแต่ละโครงการซึ่งหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศและจัดทำข้อเสนอเพื่อขอรับการสนับสนุนในแต่ละโครงการเสนอมายังกรมส่งเสริมสหกรณ์ ภายในวันที่ 15 มกราคม 2561
โครงการทั้ง 4 โครงการประกอบด้วย 1.โครงการแก้มลิงผลผลิตทางการเกษตรซึ่งจะเป็นการสนับสนุนให้สหกรณ์เป็นแหล่งรวบรวมและจัดเก็บข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลังและยางพารา เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคาผลผลิตการเกษตรให้แก่เกษตรกร 2.โครงการสนับสนุนอุปกรณ์แปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เป็นการพัฒนาศักยภาพสหกรณ์ในการแปรรูปสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน และช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม
3.โครงการผลิตเมล็ดพันธุ์ดี ส่งเสริมให้สถาบันเกษตรกรเป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์ดี ทั้งเมล็ดพันธุ์ข้าว ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อแจกจ่ายหรือจำหน่ายให้เกษตรกรได้นำไปเพาะปลูก ซึ่งปัจจุบันมีสหกรณ์การเกษตรที่มีศักยภาพในการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวประมาณ 70 แห่ง เป้าหมายโครงการจะขยายผลเพิ่มเป็น 100 แห่ง และ 4.โครงการผลิตโคเนื้อเพื่อเพิ่มมูลค่า มีเป้าหมายสนับสนุนสหกรณ์ให้เป็นแหล่งผลิตลูกโคเพื่อป้อนกรมปศุสัตว์เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่เกษตรกรต่อไป ทั้ง 4 โครงการนี้จะดำเนินการโดยใช้กลไกสหกรณ์เป็นหลัก และคาดว่าประมาณกลางเดือนมีนาคมจะมีการพิจารณาพระราชบัญญัติงบประมาณกลางปีต่อไป
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าวถึงเงื่อนไขของโครงการว่า "การสมัครเข้าร่วมโครงการขอให้เป็นไปด้วยความสมัครใจและคำนึงถึงประโยชน์ที่สมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรจะได้รับเป็นหลัก โดยคุณสมบัติพื้นฐานของสถาบันเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการนั้น จะต้องเป็นสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ สามารถปิดบัญชีได้ในปีปัจจุบัน ไม่มีปัญหาข้อบกพร่อง หรือถ้ามีจะต้องได้รับการแก้ไขแล้ว รวมถึงต้องเป็นสถาบันเกษตรกรที่ดำเนินธุรกิจรวบรวมผลิตทางการเกษตร ซึ่งสอดคล้องกับโครงการที่ขอรับการสนับสนุน และคาดว่าจะต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการประกอบการพิจารณาของบประมาณด้วย เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณครั้งนี้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและประชาชนโดยใช้สหกรณ์มาเป็นกลไกในการพัฒนาเศรษฐกิจระดับฐานรากได้อย่างแท้จริง"