อยู่หลายชั่วโมง ต้องอึดจริงถึงจะได้ไปกรุงเทพฯ แต่ฝันสลายเมื่อทหารมาตรวจพบ ส่งตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมดไปดำเนินคดี

เมื่อเวลา 02.00 น. ( 23 มิ.ย.67 ) พันเอก ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย .ร.431 ฐานปฏิบัติการบ้านแม่ปะ ออกลาดตระเวนและเฝ้าตรวจสกัดกั้นการลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมายทุกประเภทตามนโยบายกองทัพบก ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ตำรวจ สภ.แม่สอด บนถนนเรียบแนวชายแดน หมู่ที่ 4 บ้านวังแก้ว ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

และระหว่างนั้นได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย แอบซ่อนตัวอยู่ในโพรงหญ้าริมแม่น้ำเมย แนวชายแดนไทย-เมียนมา เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ราชมนู จึงส่งสัญญาณให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวออกมาจากโพรงหญ้าเพื่อทำการตรวจสอบและทำการตรวจค้น โดยทั้งหมดมีอาการส่อพิรุธนั่งตัวสั่นและมีอาการคันตามเนื้อตามตัวเนื่องจากนั่งอยู่ในโพรงหญ้าเป็นเวลานาน เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบมีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายสัญชาติเมียนมาจำนวน 24 คน เป็นชาย 18 และหญิง 6 คน โดยแรงงานทั้งหมดอยู่ในสภาพต้องซุกซ่อนตัวอยู่ในโพรงหญ้าและต้องใช้ความอึดและความทรหดอดทนเป็นอย่างมาก ในการซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ป่าหญ้าริมแม่น้ำเมยเป็นเวลานานหลายชั่วโมง เพื่อรอรถยนต์มารับและจะเดินทางต่อไปยังเมืองชั้นในปลายทางกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่จึงรีบช่วยเหลือมอบน้ำดื่มอาหารเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวไปสอบสวนขยายผลที่จุดตรวจแม่ปะ
          จากการสอบสวนแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ที่ถูกจับให้การผ่านล่ามแปลภาษาเบื้องต้นว่ากลุ่มของตนเองเป็นคนสัญชาติเมียนมาได้ลักลอบข้ามแนวชายแดนไทย-เมียนมาผ่านช่องทางธรรมชาติ ไม่ทราบจุดที่แน่นอนในเวลากลางคืนและจ่ายค่านายหน้าคนละ 5000 บาทและทุกคนต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในโพรงหญ้านานหลายชั่วโมงสุดทรมาน โดยมีปลายทางจะไปขายแรงงานแบบผิดกฎหมายที่กรุงเทพฯ แต่ก็ไปไม่ถึงฝันที่คิดไว้เนื่องจากถูกทหาร ฉก.ราชมนูสกัดจับได้เสียก่อน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายทั้งหมดส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด จังหวัดตาก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป                                       

เกษมสันต์ ไชยเดช จ.ตาก รายงาน