ทั้งนี้ มีรายงานข่าวเปิดเผบว่า นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบสต็อกยางโกดังรัฐ โดยให้นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรฯเป็นประธานตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงสต็อกยาง1แสนตันของรัฐ ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน แยกชนิด เกรด ยางทั้งหมดและหาคนที่ต้องรับผิดชอบด้วยภายหลังที่คณะกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพยาง มีหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตร เป็นประธานทั้งหมด 19 ชุด ใน8 จังหวัด 26 โกดัง สรุปตัวเลขปริมาณยาง มีจำนวน 105,330 แสนตัน โดยส่วนใหญ่คุณภาพยางเสื่อมสภาพเสียหาย
"ผมได้สั่งการให้ การยางแห่งประเทศไทยคัดแยกยางสภาพ เพื่อดูว่ามีสภาพยางใช้ได้ไม่ขึ้นรา จำนวนเท่าไหร่ ยังใช้ได้หรือไม่เท่าไร สั่งคัดแยกสภาพยางทั้งหมดเสียหายเท่าไหร่ ให้ออกมาเป็นตัวเลขชัดเจน และผมได้สั่งการย้ำว่าจากนี้กระทรวงเกษตรฯ(กษ.) จะต้องตัดสินใจร่วมกับ กยท.ไม่ให้กยท.ตัดสินใจฝ่ายเดียวเหมือนที่ผ่านมา เพราะป้องกันงบหลวงเสียหาย แม้กยท.จะอ้างว่าหน่วยงานกยท.บริหารด้วยเงินเซส แต่เป็นเงินที่เก็บจากค่าส่งออกยาง ที่ผลิตยางโดยพี่น้องเกษตรกรกรชาวสวนยางทั้งประเทศรัฐมีหน้าที่ดูแลให้ประโยชน์กลับไปถึงเกษตรกร ซึ่งการสอบข้อเท็จจริงให้เวลา 15 วัน คัดแยกสภาพ พร้อมกับตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ไปตรวจสอบดูการจัดเก็บ การรับฝากดูแลยางอย่างไร ทำไมมีสภาพแย่ ซึ่งต้องหาผู้รับผิดชอบ” นายกฤษฎา กล่าว
รมว.เกษตรฯ กล่าวด้วยว่า ยังให้นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าฯกยท.รายงานข้อเท็จจริงมาให้ทราบถึงกรณีกยท.จะจัดจ้างเอกชนมาร่วมบริหารเก็บค่าธรรมเนียมส่งออกยาง (เงินเซส) ตามด่านศุลกรกรและมีการติดตั้งอุปกรณ์ดิจิทัลตรวจสอบปริมาณยางและคุณภาพทุกด่าน ในวงเงินกว่าพันล้านบาท ซึ่งตนได้สอบถามกยท.ไปว่าก่อนหน้านี้ระบบการเก็บเงินเซสเป็นอย่างไร จึงจะเปลี่ยนมาเป็นระบบใหม่ โดยเบื้องต้นผู้ว่าฯกทย.ตอบว่าได้ส่งเจ้าหน้าที่ กยท.3 คนไปนั่งดูที่ด่านได้รู้ข้อบกพร่องของการเก็บเงินเซส ตนจึงให้ผู้ว่าฯกยท.ทำรายงานมาทั้งหมด รวมถึงหากรถบรรทุกยางไม่ผ่านด่าน กยท.จะรู้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม รมว.เกษตรฯ ได้กล่าวถึงสถานการณ์ราคายางขณะนี้ยังทรงตัว เพราะใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีน ซี่งตลาดเซียงไฮ้ หยุดการซื้อขายช่วงก่อนและหลัง ช่วงละ 7 วัน ส่วนตลาดโตคอม ประเทศญี่ปุ่น ราคาเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าก่อนหน้านี้ คาดว่าเข้าสู่ช่วงปลายเดือนนี้ราคายางขยับตัวขึ้น รวมทั้งกยท.กำลังทยอยเปิดจุดซื้อน้ำยางโดยตรงจากเกษตรกรสวนยาง ส่งให้หน่วยงานรัฐใช้ในประเทศตามเป้าหมายปีนี้นายกรัฐมนตรี วางไว้ 2 แสนตัน ขณะนี้โครงการต่างๆเริ่มใช้งบประมาณ อาทิ กรมทางหลวง กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมชลประทาน โดยขยายจุดรับซื้อไปภาคตะวันออก อีสาน และเหนือ ทั้งนี้บางพื้นที่ใกล้ฤดูปิดกรีดยาง ก็เป็นปัจจัยให้ราคายางดีขึ้น และมาตรการลดการส่งออก3 ประเทศ จำนวน 3.5 แสนตัน ช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.นี้