“ไผ่” ถือเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของตำบลโพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี เนื่องจากพื้นที่มีความเหมาะสมทำให้มีการ "ปลูกไผ่" มาอย่างยาวนาน จากเดิมปลูกไผ่ตงแต่ด้วยราคาที่ตกต่ำ ระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวสั้นและระยะพักตัวนาน ทำให้เริ่มมีการนำ "ไผ่เขียวอีสาน" มาปลูกทดแทนมากขึ้น ซึ่งเป็นพันธุ์ที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ทั้งปี ในช่วงฤดูแล้งมีราคาสูง สามารถผลิตนอกฤดูได้ไม่ยาก "ไผ่เขียวอีสาน" จึงกลายเป็นพืชหลักในพื้นที่ตำบลโพธิ์งาม
ที่บ้านประตูด่าน ม.5 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี พบนายบุญนำ โพธิ์งาม อายุ 60 ปี เกษตรกรเจ้าของสวนไผ่เขียวอีสาณ และๆผ่กิมจู พาไปชมสวนไผ่ที่มีเนื้อที่ 30 ไร่ ที่กำลังตัดไผ่ส่งขายให้กับยี่ปั้ว ที่มารอซื้อถึงสวน ซึ่งสามารถเก็บหน่อไผ่ขายสร้างรายได้ตกวันละ 1.000 กว่า เมื่อไผ่พันธ์เขียวอีสานมีความยาวที่ 15 cm ขึ้นไป แต่ในส่วนของไผ่พันธ์กิมจูหน่อนึงจะมีน้ำหนักมากกว่า 1 กิโลกรัม ตอนนี้ไผ่ทั้งสองสายพันธุ์เป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าผลผลิตออกน้อยสาเหตุเนื่องจากฝนทิ้งช่วง
นายบุญนำ เล่าว่า ราคาหน่อไม้จะไม่อยู่กับที่มีขึ้นลงทุกครั้ง เฉลี่ยอยู่ที่ 12 – 15 บาท แต่หากเป็นหน่อไม้ที้ปอกแล้วราคาจะอยู่ที่ กิโลกรัมละ 20 บาท แต่ก็ถือว่าดีกว่าแต่ก่อนเพราะตนทำอาชีพนี้มาตลอดจึงรู้ว่าช่วงไหนตอนไหนราคาหน่อไม้ดีหรือไม่ดี แต่ก่อนตนเป็นเกษตรกรทำนาเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ปลูกข้าวได้ผลผลิตและรายได้น้อยกว่าปลูกไผ่เขียวอีสาณ หรือไผ่กิมจู หากช่วงไผ่ออกน้อยยี่ปั๊วถึงกับต้องแย่งกันซื้อก็เคยมี ส่วนการปอกนั้นจะให้บรรดาแม่บ้านมาช่วยปอกซึ้งจะทำให้แม่บ้านมีรายได้จากส่วนนี้ไปช่วยเหลือครอบครัว ผู้ซื้อบางรายจะซื้อไปแปรรูป เป็นหน่อไม้ต้ม หรือ นำไปดองใส่ขวดขาย ในเองของรสชาริ ไผ่เขียวอีสาณนั้นจะมีรสชาติหวานอร่อยสามารถนำไปแกงหรือต้มกินกับน้ำพริกก็ได้ หากลูกค้าหรือผู้สนใจจะมาดูเพื่อเป็นแนวทางในการปลูกำผ่เขียวอีสาณ แลบะกิมจูสามารถเดินทาวมาดูได้ แต่ขอให้แจ้งล้วงหน้าที่ 081 -157 7871
นอกจากจะปลูกไผ่ทั้งสองสายพันธุ์แล้ว นายบุญนำยังได้ใช้เวลาว่างที่พอมีอยู่เลี้ยงตั๊กแตนขายสร้างรายได้อีกทาง ซึ่งตั๊กแตนปาทังก้าที่ทางนายบุญนำเลี้ยงขายนั้นจะมีนายหน้ามารับซื้อตกกิโลกรัมละ 450 บาท
ธนปกรณ์ วิศวามิตร / ปราจีนบุรี
081-2863615
