ประธาน กกต.ลั่น 5 โมงเย็นวันนี้ได้ 200 สว.แน่ ชี้ 300 ผู้สมัครรวมตัวสัมมนา ถ้าไม่มีเรื่องผลประโยชน์ไม่ผิด สามารถแนะนำตัวได้ปกติ สืบอยู่ปมจ่ายเงินล็อบบี้หัวละหลักแสน-ล้านบาท เมินปมผู้สมัครชู 3 นิ้ว แค่การแสดงออก
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2567 ที่ชั้น 1 ของอาคาร 4 อิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงข่าวการเลือก สว.ระดับประเทศ ตอนหนึ่งว่า เบื้องต้นคาดว่าผู้สมัครจะมากันครบในจำนวน 2,995 คน เดี๋ยวคงมีรายงานมา ศูนย์อำนวยการข้างในกำลังรวบรวมตัวเลขอยู่ เบื้องต้นขณะนี้ยังไม่พบปัญหา ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ใช้ความละเอียดรอบคอบอธิบายปัญหา วันนี้คงจะยาวหน่อย แต่ทีมงานพร้อม
เมื่อถามว่าวันนี้จะเลทหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ตามกระบวนการ การเลือกระดับประเทศ เลขาธิการ กกต. ในฐานะผู้อำนวยการเลือก สว.ระดับประเทศ จะบรรยายสรุปขั้นตอนที่จำเป็นให้ผู้สมัคร สว.รับทราบอีกครั้ง ใช้เวลาราว 20 นาที หลังจากนั้นเวลา 09.30 น.โดยประมาณ จะใช้เวลาออกเสียงโหวต คาดว่าใช้เวลาโหวตรอบแรก 2 ชั่วโมง 30 นาที หลังจากนั้นหยุดพักให้ผู้สมัครรับประทานอาหาร และจับสลากแบ่งสาย หลังจากนั้นแจกเอกสาร สว.3 ให้ผู้สมัครทุกคนได้ศึกษา 1 ชั่วโมง ภาคบ่ายตั้งใจว่าจะเริ่มประมาณ 14.30 น. คาดว่า 2 ชั่วโมง 30 นาทีคงเสร็จ คาดว่าราว 17.00 น. นี่เผื่อไว้จับสลากบางกรณี
วานนี้ (25 มิ.ย.) มีบางกลุ่มแพร่เอกสารประเมินว่าแต่ละกลุ่มคาดว่าจะมีใครได้รับเลือกบ้าง นายอิทธิพร กล่าวว่า ได้เห็นจากข่าว แต่สิ่งที่กฎหมายห้ามคือห้ามทำโพล อยู่ในอำนาจมาตรา 87 พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. แต่ถ้าอย่างอื่นให้ข้อคิดเห็น เสนอความคิดว่าในมุมมองของผู้เสนอเหล่านี้ เสนอตามบัญชีรายชื่อแต่ละกลุ่มในสายตาเขาน่าจะได้รับสมัคร เป็นเรื่องให้ข้อคิดเห็น แต่แนวปฏิบัติของ กกต.เมื่อมีประเด็นทำนองนี้ สำนักงานฯจะศึกษาข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย ถ้าเห็นว่า กกต.ควรตัดสินใจ จะเสนอให้ กกต.ตัดสิน
ส่วนกรณีมีผู้สมัคร สว. 300 คนจับกลุ่มสัมมนากันนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามข่าว เป็นการจัดเพื่อที่จะแชร์ความเห็น ข้อเท็จจริงระหว่างกัน เป็นการจัดอย่างเปิดเผย เพราะฉะนั้น อย่าลืมว่ากฎหมายไม่ได้ห้ามในส่วนนี้ในการพบปะ แนะนำ หรือหาเสียง ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการแนะนำตัวฯ ได้รับการผ่อนคลายโดยศาลเห็นว่า ควรผ่อนคลายให้ผู้สมัครแนะนำตัวกันมากที่สุด และกระบวนการใดทำโดยเปิดเผย ย่อมถือเบื้องต้นได้ว่ากระทำโดยสุจริต แต่ทุกเหตุการณ์ กกต.ส่งเจ้าหน้าที่ไปติดตามสถานการณ์เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย ทั้งนี้ต้องดูว่าการล็อบบี้เป็นการให้ผลประโยชน์หรือไม่ ถ้าเป็นการนำเสนอกับคนที่เกี่ยวข้องว่าตัวเองมีคุณสมบัติเหมาะสม ถือเป็นเรื่องปกติของการสมัคร
เมื่อถามถึงการปรากฏข้อมูลว่า มีการล็อบบี้โดยเสียเงินหลักแสนบาท ถึงหลักล้านบาทนั้น ประธาน กกต. กล่าวว่า เป็นประเด็นที่สื่อ และ กกต.ติดตามมาตลอด เราได้ทำมาตั้งแต่ก่อนเริ่ม ได้ติดตามพฤติการณ์น่าสงสัย มีพยานหลักฐานเมื่อใดจะดำเนินการ พยานหลักฐานรวบรวมไว้ ตั้งแต่ระดับอำเภอ เพราะนำไปสู่ระดับจังหวัด และระดับประเทศ เมื่อมีหลักฐานเพียงพอจะดำเนินการ เราพบเมื่อไหร่ มีหน้าที่ดำเนินการ การกระทำอะไรเป็นกลุ่มก้อน ไม่ได้หมายความว่าจะเรียบร้อยง่าย ๆ เราขอความร่วมมือจากประชาชนหลายครั้งว่า ถ้ามีเบาะแสแจ้งเรา เงินรางวัลอาจมากกว่าสิ่งที่ท่านจะได้ ตอนนี้อาจจะมีคนแจ้งเบาะแสอยู่บ้าง แต่อยู่ที่สำนักงานฯ โดยอยูที่ฝ่ายสืบสวนของเราว่า ข้อเท็จจริงนี้มีพยานหลักฐานสมควรเสนอ กกต.โดยเร็วหรือไม่
เมื่อถามถึงเรื่องที่สืบสวนขณะนี้มีอะไรบ้าง นายอิทธิพร กล่าวว่า มีประมาณ 300 เรื่อง เป็นเรื่องคำร้องส่วนใหญ่ แต่ที่เราทำเองก็มี ในจำนวนนี้ยังไม่ได้แจ้งมา กระบวนการทำงานต้องปรากฎให้ชัดเจนก่อนถึงแจ้งมา
ส่วนเรื่องอาจมีการล็อบบี้โหวตกันในห้องน้ำ มีหลายฝ่ายอยากให้ กกต.ตรวจบริเวณหน้าห้องน้ำด้วยนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า มาตรการที่วางไว้ คุยกับตำรวจ และเจ้าหน้าที่ กกต.ประจำจังหวัด วางไว้ในนานแล้วตั้งแต่ระดับอำเภอ คือให้ตรวจสอบห้องน้ำก่อนเริ่มด้วยว่า มีการวางอะไรไว้หรือไม่ ขั้นตอนของเราถ้าจะเข้าห้องน้ำ ต้องแจ้งเพื่อได้มีคนนำไป และเฝ้ามอง คอยดูว่ามีอะไรไม่ดีไม่งามหรือไม่ กระบวนการนี้ทำโดยตลอด เรามีกระบวนการป้องกัน ตั้งใจมานานแล้ว และปฏิบัติตามทุกครั้ง
เมื่อถามว่าคาดว่าวันนี้ได้ 200 คนแน่นอนหรือไม่ ประธาน กกต. กล่าวว่า “ครับ มากันเยอะ ผู้สมัครแต่ละกลุ่มโดยเฉลี่ย 150 คน น้อยสุด 120 กว่าคน กระบวนการน่าจะไหลไปเรื่อย ๆ จนถึง 200 คนได้ ไม่มีแนวโน้มว่าจะไม่ได้ 200 คน”
เมื่อถามถึงกระแสข่าวผู้สมัครบางคน อาจเกี่ยวโยงกับพรรคการเมือง นายอิทธิพร กล่าวว่า การแสดงสัญลักษณ์ต้องชัดเจนว่า พิสูจน์ได้ว่าเชื่อมโยงเกี่ยวกับการสนับสนุนของพรรคการเมือง ถ้าไม่ถึงขนาดนั้นก็คงไม่ใช่
“ถ้าชู 3 นิ้ว โดยหลักแล้ว มันไม่มีอะไรห้าม แต่ก็ไม่อยากให้ทำอะไรที่ต้องเป็นคำถามที่มาถามแบบนี้ เวลาถ่ายรูปก็ทำท่านู้นท่านี้ เพราะเดี๋ยวผู้สมัครก็ทานข้าวด้วยกัน คงแนะนำตัวกันได้อยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ” นายอิทธิพร กล่าว
ประธาน กกต. กล่าวทิ้งท้ายว่า เข้าใจดีว่า ผู้สมัครทั้งหลายที่ผ่านเวทีอำเภอ จังหวัดมาแล้ว เข้าสู่กระบวนการระดับประเทศ ต้องมีความเข้าใจเป็นอย่างดี ต้องเตรียมตัวเป็นอย่างดี กกต.แจกคู่มือให้ตั้งแต่ระดับอำเภอ ทุกครั้งก่อนการเลือกก็มีการบรรยายสรุปวิธีการที่พึงปฏิบัติ ต้องถือว่าผู้สมัครรู้จักหน้าที่ และปฏิบัติตนได้ตามระเบียบขั้นตอนเป็นอย่างดี