น้ำผักผลไม้รวม เป็นภูมิปัญญาโบราณที่สืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนาน แม้ว่าบางช่วงบางตอนจะไม่ได้รับความสนใจของคนรุ่นใหม่ เหตุเพราะว่า อาจรับประทานยาก รสชาติไม่อร่อย แต่ในปัจจุบันกลับมีคนสนใจที่จะหาน้ำผักผลไม้มารับประทานกันมากขึ้นจนกลายเป็นที่นิยมของผู้ที่รักษ์สุขภาพ
           ด้วยความเชื่อจากปราชญ์โบราณในเรื่องการดื่มน้ำผักผลไม้เพื่อตามธาตุเจ้าเรือน ถือว่ามีความสำคัญและประโยชน์ต่อร่างกายของเรา ช่วยในเนื่องการปรับธาตุให้สมดุล เป็นยาเละป้องกันโรคเพื่อไม่ให้เกิดการเจ็บป่วย ด้วยการแยกการดื่มเป็นธาตุของแต่ละธาตุเจ้าเรือน เช่น *ธาตุดิน* ผู้ที่เกิดในเดือน ตุลาคม ถึง ธันวาคม น้ำสมุนไพรหรือน้ำผักผลไม้ควรเป็นน้ำผลไม้ที่มีรสฝาด หวาน มันเค็ม เช่นฝรั่ง กระท้อน มะกอก มะขามป้อม รสหวานได้จาก แตงโม มะละกอ กล้วยหอม หรือขนุน ส่วนรสมันจากกระจับ ข้าวโพด ฟักทอง และแห้ว  *ส่วนธาตุลม* ผู้เกิดเมษายน ถึง มิถุนายน น้ำผักผลไม้ที่มีรสเผ็ดร้อน อาทิ กระเพราแดงขิง ข่า ตะไคร้  *ถ้าธาตุไฟ *ผู้ที่เกิด มกราคม ถึง มีนาคม น้ำผักผลไม้ที่เหมาะสมคือ  ผลไม้ที่มีรสหอมเย็น เช่นลูกเดือย แมงลัก แตงไท มะพร้าว ลูกจาก หรือลูกตาลอ่อน ส่วนรสจืดมีผักคะน้า ตำลึง แตกว่า คึ่นฉ่าย ดอกคำฝอย ว่านหางจระเข้เป็นต้น ส่วนผู้ที่เกิดกรกฎาคม ถึง กันยายน ซึ่งเป็น *ธาตุน้ำ* น้ำสมุนไพรที่เหมาะสมคือ น้ำผักผลไม้รสเปรี้ยว ขม  เช่นมะขาม มะนาว กระเจี๊ยบแดง มะยม มังคุด มะเขือเทศ และมะละขี้นก เห็ดหลินจือ ใบบัวบก
           ปัจจุบัน กลุ่มเกษตรอินทรีย์ บ้านนทรี ต.นนทรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้มีการรวมกลุ่มจัดตั้ง  เกษตรอินทรีย์  ขึ้นเพื่อการเผยแพร่และส่งเสริมให้มีการผลิตน้ำสมุนไพรธรรมชาติ ตามธาตุเจ้าเรือน จากผักผลไม้อินทรีย์ปลอดสารพิษใน แปลงเกษตรอินทรีย์บ้านนทรี แล้วนำเอาผลผลิตที่ได้มาทำน้ำผักผลไม้ปั่นให้กับสมาชิกนำไปรับประทาน และสามารถต่อยอดนำไปสู่การผลิตเพื่อจำหน่ายในอนาคต ซึ่งวันนี้มีสมาชิกให้ความสนใจเข้ามาร่วมศึกษาและทดลองทำน้ำผักผลไม้ปั่นตามธาตุเจ้าเรือน โดยทางกลุ่มได้ใช้ผักผลไม้ที่ปลูกในพื้นที่มาเป็นวัตถุดิบการผลิต ก่อนนำแจกจ่ายให้สมาชิกได้ทดลองชิมและนำกลับบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่พอใจกับน้ำผักผลไม้สุขภาพและจะได้นำไปทำเพื่อรับประทานในครอบครัวต่อไป
  ธนปกรณ์  วิศวามิตร / ปราจีนบุรี