เสนาฯ รุกติดตั้งจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า(EV Charger) ในบ้านระดับราคา 5-10 ล้านบาทในโครงการบ้าน และที่อยู่อาศัย เป็นรายแรกของไทยหรือ The First EV ready นำร่อง ปี 2561 เปิด 2 โครงการ ย่านรามอินทรา - วงแหวน รับกระแสการเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์คนไทย เริ่มหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น พร้อมรุกเดินหน้าขยายการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปทั้งโครงการหมู่บ้านและคอนโดมิเนียมเพิ่ม
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ผู้ดำเนินโครงการหมู่บ้านใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) เต็มรูปแบบรายแรกของไทย เปิดเผยว่า ปี 2561บริษัทได้นำร่องติดตั้งเครื่องชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า (EV Charger ) ภายใต้ชื่อ EV ready รองรับยานยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทั้งแบบไฮบริด และ ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) ให้กับบ้านราคา 5-10 ล้านบาททุกหลังภายในโครงการที่พักอาศัยของเสนา 2 โครงการได้แก่ โครงการเสนาพาร์คแกรนด์ รามอินทรา –วงแหวน และโครงการเสนา พาร์ค วิลล์ รามอินทรา – วงแหวนหลังจากนั้นจะขยายในทุกโครงการใหม่ในอนาคตซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวจะทำให้เสนาเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกของประเทศที่จะมีการติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าให้กับบ้านทุกหลังในระดับราคา 5-10 ล้านบาทรายแรก (The First EV ready)
“กระแสรักษ์โลกส่งผลให้ขณะนี้ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle (EV) ในระยะ 5 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีแนวโน้มของการขยายตัวที่ต่อเนื่อง ประกอบกับรัฐบาลได้ส่งเสริมที่จะให้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศดังนั้น เพื่อตอบสนองความต้องการตลาดและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่จะเปลี่ยนไปตามเทรนด์การผลิตรถยนต์ในอนาคตเสนา จึงมีเป้าหมายติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้ชื่อ EV readyให้กับบ้านทุกหลังโดยมุ่งเน้นลูกค้าบ้านขนาดราคา 5-10 ล้านบาทใน 2 โครงการดังกล่าว” ผศ.ดร.เกษรากล่าว
ทั้งนี้การติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านสำหรับโครงการแนวราบ 2 โครงการดังกล่าวนั้น ถือเป็นโครงการต้นแบบโดยเน้นใช้หัวจ่ายแบบธรรมดา (Normal Charge) ซึ่งเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ หรือ ไฟฟ้าบ้านทั่วไป และ ใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 8 ชั่วโมงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ 100% แต่ถ้าใช้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า PHEV จะใช้ระยะเวลาสั้นกว่านั้นมาก ขึ้นอยู่กับความจุแบตเตอรี่และชุดควบคุมการชาร์จไฟฟ้าของรถแต่ละยี่ห้อ ทั้งนี้ อัตราค่าไฟฟ้าในกรณีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าถูกกำหนดให้พิจารณาในรูปแบบของ TOU กล่าวคือ คิดอัตราค่าไฟฟ้าตามช่วงเวลา On Peak ที่ 4.2 บาทต่อหน่วย และ Off Peak 2.6 บาทต่อหน่วย
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า PHEV ที่มีความจุแบตเตอรี่ 8.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถวิ่งด้วยแบตเตอรี่เป็นระยะทาง 35 กิโลเมตร คิดเป็นรายจ่ายเพียง 1.05 บาทต่อกิโลเมตร ขณะที่หากใช้น้ำมันจะมีค่าใช้จ่าย 2.5 บาทต่อกิโลเมตร ทำให้ค่าใช้จ่ายถูกกว่าการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงถึง 1.45 บาทต่อกิโลเมตร
การพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้า(EV Charging Station) ภายในโครงการของเสนาฯทั้งแนวราบและแนวสูงเพื่อให้บริการกับลูกบ้าน ขณะนี้ได้มีการติดตั้งไปแล้ว 5 แห่ง คือ 1) โครงการเสนาวิลล์ บรมราชชนนี-สาย 5 2) โครงการเสนาพาร์ค วิลล์ รามอินทรา-วงแหวน 3) โครงการเสนาพาร์ค แกรนด์ รามอินทรา-วงแหวน 4)โครงการนิช โมโน สุขุมวิท 50 5) โครงการนิช โมโน พีค บางนา และมีเป้าหมายที่จะขยายให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเพื่อให้ครอบคลุมการบริการมากขึ้น