‘ดีอี’ จับมือพันธมิตร เดินหน้าเทรนนิ่งเซ็นเตอร์ ปั้นคนป้อนอุตสาหกรรมอีวี ผ่านดีอีแพลตฟอร์ม พัฒนาทักษะแรงงานขั้นสูงอย่างยั่งยืน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 1-2 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้ร่วมพิธีเปิดกิจกรรมอบรมสัมมนา หัวข้อ “Digital Korat: The Future Starts Now - โคราช มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต” ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) ได้มีการนำเสนอผลงานการขับเคลื่อนนโยบายอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของรัฐบาลผ่าน DE Platform
โดยกิจกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดต้นแบบของการพัฒนาดิจิทัลในระดับภูมิภาค เมื่อวันที่ 1-2 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา กระทรวง ดีอี ได้สนับสนุนการใช้ระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ลดการใช้กระดาษ (Paper Less) และความร่วมมือ (MOU) ด้านการพัฒนากำลังคนดิจิทัล ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) กับ 3 มหาวิทยาลัยในจังหวัดนครราชสีมา คือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) และ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (มรม.)
นอกจากนี้ ยังสร้างการพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในจังหวัดนครราชสีมา ให้เป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ศูนย์กลางโลจิสติกส์ (Logistic Hub) และส่งเสริม Soft Power ของจังหวัดนครราชสีมา เพื่อการเผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่น ศิลปะ และการสร้างสรรค์ผลงานผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล โดยผ่านการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกระทรวง ดีอี และภาคส่วนต่าง ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 3 ฉบับ
ขณะเดียวกันภายใต้การบูรณาการของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มทร.อีสาน และภาคีเครือข่าย ได้ร่วมนำเสนอศักยภาพดิจิทัลขั้นสูงของประเทศ เพื่อรองรับการพัฒนาแรงงานสมรรถนะสูง ตอบสนองอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ สร้างเสริมทักษะทุกมิติด้วยเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า EV ระดับโลก VR Training บนโครงข่าย DE Platform เชื่อมโยงการถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยี และนวัตกรรมระหว่างประเทศอย่างไร้พรมแดน
ทั้งนี้ กระทรวง ดีอี และหน่วยงานพันธมิตร มีแนวคิดการจัดตั้ง Training Center ระดับชาติ เพื่อขยายสู่ภูมิภาคและสากล รองรับการขับเคลื่อนนโยบายยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม โดยอาศัยความพร้อมของ มทร.อีสาน เป็นฐานการผลิตกำลังแรงงาน
ร่วมกับภาคีเครือข่าย และพร้อมสนับสนุนโครงข่าย DE Platform เพื่อการทำงานภายใต้ความร่วมมือด้านการพัฒนากำลังแรงงานสมรรถนะสูงทุกมิติของเทคโนโลยียนตกรรม EV ระดับโลก รวมถึงระบบ VR Training ซึ่งเป็นนวัตกรรมเพื่อรองรับการพัฒนาทักษะกำลังคนด้าน EV ด้วยเทคนิคและองค์ความรู้มาตรฐานระดับโลก
พร้อมทั้งมอบเครื่องมือและอุปกรณ์เทคโนโลยี EV Training ด้าน DE Platform รองรับการพัฒนาทักษะด้วยเทคโนโลยีด้าน EV ขั้นสูง ให้แก่ มทร.อีสาน ซึ่งได้รับการสนับสนุน จากบริษัท จีไอ นิว เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ติดตั้งภายในสถาบัน เพื่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านยานยนต์ไฟฟ้าของ มทร.อีสาน โดยมีเป้าหมายมุ่งเน้นการพัฒนากำลังคนสมรรถนสูงด้าน EV สู่ความเป็นเลิศอย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้กระทรวงดีอี และหน่วยงานพันธมิตร พร้อมร่วมบูรณาการทำงานเพื่อตอบสนองวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง” ของรัฐบาล ให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต (Future Mobility Hub) โดยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนที่สำคัญที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผลักดันให้ประเทศไทยเป็น EV Hub และ 10 อันดับแรกของโลกในการผลิตยานยนต์ที่ไม่ปล่อยมลพิษ (Zero Emission Vehicle: ZEV) ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดของประเทศไทย ในปี 2030 หรือ พ.ศ. 2573 หรือคิดเป็นกำลังการผลิตรถยนต์ประมาณ 725,000 คัน และรถจักรยานยนต์ประมาณ 675,000 คัน
โดย มทร.อีสาน จะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตามภารกิจ ของกระทรวง อว. For EV ดำเนินการใน 3 แผนงาน “พัฒนากำลังคน เพิ่มสัดส่วนการใช้รถ EV และหนุนงบวิจัย EV ทั้งระบบ” เพื่อสร้างอุตสาหกรรมใหม่ให้กับประเทศ และสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” นายประเสริฐ กล่าว