ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
ฮือฮา พบโบราณสถานอายุหลายร้อยปี
09 ก.ค. 2567

           พบโบราณสถานเก่าแก่อายุหลายร้อยปี ชาวบ้านวอนหน่วยงานตรวจสอบและปรับปรุงเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์

           หลังเกิดกระแสในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีว่ามีชาวบ้านไปพบกับปราสาทหรือเทวสถาน เป็นหินศิลาแลงตั้งอยู่ใจกลางป่ายูคาลิปตัส มีอายุ นับร้อยปี ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ทำการตรวจสอบ พบว่าประสาทหรือเทวสถานดังกล่าวชื่อ"ปราสาททอง"ตั้งอยู่ที่บ้านปราสาท ม.7 ตำบลหาดนางแก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ตัวปราสาทตั้งอยู่ในที่ลุ่ม ก่อสร้างด้วยศิลาแลง ปัจจุบันเหลือแต่ฐาน เป็นปราสาทหลังเดียวขนาดย่อม มีกำแพงกว้างด้านละ 32 เมตร ตัวกำแพงหนา 1 เมตร สูง 1.40 เมตร ภายในบริเวณกำแพงมีฐานอาคารก่อด้วยศิลาแลงกว้างประมาณ 9 เมตร ยาวประมาณ 12 เมตร หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีคูน้ำเก่าล้อมรอบ ตัวปราสาท และ บริเวณภายในกำแพงพูนดินสูงขึ้น ทางด้านทิศเหนือมีเนินกว้างและใหญ่ บริเวณผิวดินพบเศษภาชนะดินเผา เป็นเครื่องถ้วยสมัยลพบุรีกระจายอยู่จำนวนมาก  ส่วนทางด้านทิศตะวันออกห่างออกไปประมาณ 100 เมตร มีแนวคันดินโบราณสั้น ๆ ทอดตรงเข้ามายังปราสาท เดิมคงใช้เป็นทางเดิน และอาจกลายเป็นคันกั้นน้ำในฤดูฝน

           ดูจากลักษณะของปราสาทหรือเทวสถาน สันนิษฐานว่า น่าจะสร้างขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 16 – 18 อายุราว 767 ปี ทราบว่าแต่เดิม โบราณสถานแห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ.2530 แต่ไม่ทราบด้วยเหตุใดจึงถูกทิ้งร้าง  ซึ่งตัวปราสาทอยู่ในพื้นที่ 2 ไร่ รอบๆ ปราสาทมีเนื้อที่ 10 กว่าไร่ เป็นที่สาธารณะ ชาวบ้านในหมู่บ้านให้ความศรัทธาในสถานที่แห่งนี้ เวลามีงานบุญ งานบวชงานแต่งก็จะพากันมากราบไหว้ และมารำถวาย คนที่มาก็ต่างพากันเจอแตกต่างกันไปในเรื่องลี้ลับ บางคนที่นำสิ่งของหรือหินที่อยู่ในพื้นที่ปราสาทนำออกไปก็จะต้องรีบนำเอากลับมาคืนที่เดิม

            จากการสอบถาม นายสุชาติ ภู่โต๊ะยา ผู้ช่วยกำนัน บ้านปราสาท ต.หาดนางแก้ว กล่าวว่า ที่ตนมาอยู่ที่นี่ก็เห็นปราสาทหลังนี้เกิดขึ้นแล้วมีมานมนามแล้ว ชาวบ้านมีความศรัทธากราบไหว้บูชา ทางเราพร้อมปรับปรุงสถานที่อยากให้ทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว สถานที่ตรงนี้ได้มีการขึ้นเป็นของกรมศิลป์แล้ว ชาวบ้านเรียกประสาทหลังนี้ว่า "ปราสาททอง" ชาวบ้านจะมาทำอะไรหรือมาบนบานศาลกล่าวที่นี่ก็สมปรารถนาและสำเร็จ ส่วนในเรื่องของความลี้ลับก็เกิดขึ้นมาบ้างเกี่ยวกับเรื่องปาฏิหาริย์ ชาวบ้านบางคนเห็นพระะปางองค์ไสยญาติองค์ใหญ่มานอนอยู่กลางวิหาร เคยมีคนมาขอโชคขอลาภก็ถูกหวยกันจึงได้สร้างสรรค์ขึ้นให้ ใครที่นำสิ่งของหรือหินที่อยู่บริเวณภายในปราสาทกลับไปก็อยู่ไม่ได้ก็ต้องพากันกลับเอามาคืน ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะเอาหินที่ปราสาทออกไป ลักษณะหินที่ชาวบ้านนำเอาไปเป็นหินแตกลายงาเป็นก้อนเล็กๆเอาไปก็จะนอนไม่ได้ ถ้าใครไม่คืนก็จะมีอันเป็นไป

 

            ด้านนางแดง ศิลปะสม อายุ 68 ปี กล่าวถึงเรื่อง คนแปดศอกเป็นตำนานที่อยู่ตรงต้นมะขามเขาให้เลขถูกตลอดแต่ตอนนี้ต้นมะขามล้มแล้ว แต่ก่อนพากันไปนอนเฝ้าอยู่ใต้ต้นมะขามเห็นเป็นเลข ส่วนใหญ่เขาจะให้แต่คนไกล เมื่อก่อนเห็นเรียงขึ้นสวยงามมากแต่ตอนนี้มันได้ถล่มลงมา ตำนานเขาเล่าว่าจะมีคนแปดศอกอยากกินขนมจีน ตอนทำน้ำยามีเด็กน้อยตกลงไปในกระทะก็เลยเอาเด็กทำน้ำยา เขาชอบกินขนมจีนน้ำยาป่า หัวหมูกินแต่หูกับลิ้นกับตีนหมู หัวเอาไปให้ลูกศิษย์กิน ช่วง 6 โมงเย็นแกจะมาบ้านยายบ่อยนุ่งขาวห่มขาวมาหาเพราะหลานยายไปทำสิ่งไม่ดีบ่อย หอยในคลองที่ศาลตายายมีเยอะยายจึงไปเก็บแต่ก็ไม่ได้สักตัวเพราะหลานยายไปทำสิ่งไม่ดี หลานยายที่ไปหาหอยด้วยก็คันไม่มีสาเหตุและก็ปวดหัวทำยังไงก็ไม่หาย ตนจึงเอาธูปไปจุดขอขมาตายายแล้วหลานก็หายจากอาการที่เป็นอยู่ แล้วหลานก็เห็นตากับยายมาที่หน้าบ้านแกมาเตือน แกบอกว่าให้เหลือข้าวไว้ในหม้อสักก้อนนึงอย่ากินหมด ตอนอยู่บ้านตนด้วยยินเสียงเขาเทศแต่มีอีกคนนึงเขาได้ยินเสียงดนตรีเสียงนางรำช่วงวันพระ ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยบูรณะสถานที่แห่งนี้ อยากให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้กับลูกหลานคนรุ่นหลังได้รู้ได้เห็น

           ทั้งนี้หลังขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ลงทำการตรวจสอบ มีชาวบ้านที่เดินทางมาทำการตรวจสอบร่วมกับผู้สื่อข่าวได้จุดธูปเสี่ยงโชคเสี่ยงทาย บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อขุนหมื่น เจ้าแม่สายหยุด หลังจากที่รอประมาณ 10 นาที ผลปรากฏตัวเลขขึ้นบนธูปเสี่ยงทายเป็นตัวเลข 27 โดยธูปที่จุดนั้นมีการแตกและไม่ปรากฏตัวเลขตัวที่ 3 ชาวบ้านได้นำโทรศัพท์มาถ่ายรูปไว้ก่อนที่จะไปซื้อสลากกินแบ่งเพื่อเสี่ยงโชคในงวดที่จะถึงนี้

                                                     ธนปกรณ์  วิศวามิตร / ปราจีนบุรี

                                                             091-2863615

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 กันยายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...