นครพนม เตรียมจัดใหญ่ เดิน-วิ่ง ข้ามโขง “นครพนม-คำม่วน มาราธอน 2567”
(Nakhonphanom-Khammouan Marathon 2024) Season 6 ยกระดับเป็นนานาชาติ ตั้งเป้ามีนักวิ่งเข้าร่วมแข่งขัน 5,000 คน
วันที่ 12 ก.ค.2567 ที่ห้องประชุมพระธาตุนคร ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีตสมาชิกวุฒิสภาและประธานกรรมาธิการแรงงานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง ข้ามโขง “นครพนม-คำม่วน มาราธอน 2567” (Nakhonphanom-Khammouan Marathon 2024) Season 6 ณ บริเวณสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) ซึ่งจังหวัดนครพนม หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมกับมูลนิธิศรีโคตรบูร จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เยาวชนและประชาชนทุกเพศทุกวัยมีความตื่นตัวในการเล่นกีฬาและออกกำลังกาย และฉลองสะพานมิตรภาพ 3 ครบ 12 ปี มีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม


นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า การจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง ข้ามโขง “นครพนม-คำม่วน” จัดมาแล้ว 5 ครั้ง ครั้งนี้เป็นการจัดครั้งที่ 6 กำหนดจัดในวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2567 จุดปล่อยตัว(Start)และเส้นชัย(Finish) ที่บริเวณสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) ซึ่งปีนี้มีการยกระดับการจัดให้เป็นระดับนานาชาติ ตั้งเป้ามีนักวิ่งจากทั่วประเทศและนักวิ่งต่างชาติเข้าร่วมการแข่งขันประมาณ 5,000 คน เริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป ผ่านเพจเฟซบุ๊ค เดินวิ่ง ข้ามโขงนครพนม-คำม่วนมาราธอน แบ่งการแข่งขันเป็น 4 ระยะ คือ มาราธอน 42.195 กม. ฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กม. มินิมาราธอน 10 กม. และ ฟันรัน 5 กม. ซึ่งผู้ที่สมัคร VIP สามารถเลือกวิ่งได้ทุกระยะ โดยทุกระยะเมื่อปล่อยตัวจะวิ่งขึ้นสะพานมิตรภาพ 3 ข้ามแม่น้ำโขงไปกลับตัวที่ฝั่งแขวงคำม่วน สปป.ลาว แล้ววกกลับขึ้นสะพานข้ามมาฝั่งไทย แล้ววิ่งไปตามเส้นทางที่กำหนด แล้วกลับมาเข้าเส้นชัยที่จุดปล่อยตัว บริเวณสะพานมิตรภาพ 3 เช่นเดิม

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีตสมาชิกวุฒิสภาและประธานกรรมาธิการแรงงานวุฒิสภา กล่าวว่า จังหวัดนครพนม เป็น 1 ใน 10 จังหวัดที่ได้ยกระดับการพัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก ดังนั้นการจัดการแข่งขันเดิน-วิ่ง ข้ามโขง “นครพนม-คำม่วน มาราธอน2567” (Nakhonphanom-Khammouan Marathon 2024) Season 6 จึงต้องยกระดับการแข่งขันให้เป็นระดับนานาชาติ ซึ่งการจัดแข่งขันวิ่งมาราธอนเรื่องการบริหารจัดการเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่ทุกภาคส่วนต้องเข้ามามีส่วนร่วม และจังหวัดนครพนมมีจุดแข็งคือมีวิวแม่น้ำโขงที่สวยงาม มีความปลอดภัย บ้านเมืองมีความสะอาด มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ มีสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่สวยที่สุด เชื่อว่าจะมีนักวิ่งสมัครเข้าร่วมแข่งขันตามเป้าที่ตั้งไว้
สำหรับรายได้จากการแข่งขันจะมอบให้จังหวัดนครพนมนำไปใช้เพื่อกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ มอบให้เพื่อสาธารณสุขและการศึกษา และมอบให้มูลนิธิศรีโคตรบูร เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดนครพนม