สทนช. รับนโยบาย “รองนายกฯ ภูมิธรรม” ตั้งศูนย์ฯส่วนหน้าชั่วคราวในตะวันออกและอีสาน บูรณาการหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ป้องกันและคลี่คลายอุทกภัย ดูแลประชาชน
สทนช. จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่ภาคตะวันออก ณ จังหวัดระยอง และพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ จังหวัดนครราชสีมา ปฏิบัติงาน 24 ชม. บูรณาการหน่วยปฏิบัติป้องกันและคลี่คลายสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ตามนโยบาย “รองนายกฯ ภูมิธรรม” หลังคาดการณ์จะมีฝนตกหนักเพิ่มขึ้น พร้อมติดตามประเมินสถานการณ์ทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด
วันที่ 13 ก.ค. 67 เวลา 09.00 น. ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก และลุ่มน้ำบางปะกง และเป็นประธานการประชุมคณะทำงานอำนวยการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก และลุ่มน้ำบางปะกง ครั้งที่ 1/67 ณ ตึกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง จังหวัดระยอง โดยมีผู้แทนจากจังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก และลุ่มน้ำบางปะกง ได้แก่ จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) กรมทรัพยากรน้ำ กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กรมประชาสัมพันธ์ เป็นต้น เข้าร่วมการประชุม พร้อมลงพื้นที่ตรวจราชการติดตามเตรียมความพร้อมตามมาตรการรับมือฤดู ฝน ปี 67 ในพื้นที่ จังหวัดระยอง ได้แก่ บริเวณคลองทับมา บริเวณพื้นที่ชุมชนถนนสายหนองมะหาด (หลังเซ็นทรัลระยอง) บริเวณพื้นที่สะพานหมู่บ้านกรุงไทย บริเวณประตูระบายน้ำคลองทับมา และถนนทางหลวงหมายเลข 36 ตามลำดับ ก่อนจะลงพื้นที่ใน จังหวัดจันทบุรี และ จังหวัดชลบุรี ในวันพรุ่งนี้
เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า ในระยะนี้มีฝนตกหนักเพิ่มมากขึ้น โดยจากการติดตามสภาพอากาศและการคาดการณ์ พบว่า อิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรงที่จะพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้หลายพื้นที่ของประเทศไทยมีฝนตกหนัก อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังบริเวณชุมชนเมืองได้ ในช่วงวันที่ 15 – 20 ก.ค. 67 ซึ่ง สทนช. ได้มีการออกประกาศเฝ้าระวังแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากบางพื้นที่ของภาคตะวันออกในช่วงที่ผ่านมา เช่น จังหวัดชลบุรี จังหวัดปราจีนบุรี มีฝนตกจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังและส่งผลกระทบต่อประชาชน และคาดว่าจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ดังกล่าว
สทนช. จึงได้มีการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก และลุ่มน้ำบางปะกง ณ จังหวัดระยอง เพื่อบูรณาการและอำนวยการหน่วยงานในพื้นที่เพื่อป้องกันและแก้ไขอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก รวมถึงดินโคลนถล่ม ให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว รวมทั้งในวันเดียวกันนี้ นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการ สทนช. ได้เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำมูลและประชุมคณะทำงานอำนวยการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำมูล ครั้งที่ 1/67 ณ สำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำมูลจากสถานการณ์ฝนหนักในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และได้ติดตามความพร้อมรับมือฤดูฝนในพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดบุรีรัมย์ด้วย
ทั้งนี้ การจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) เป็นการดำเนินงานตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 67 ในมาตรการที่ 6 ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุตั้งศูนย์ส่วนหน้าก่อนเกิดภัย ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแล สทนช. ได้กำชับและให้ความสำคัญ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด โดยได้มีการนำรูปแบบการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นำมาใช้ในการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ตามที่รองนายกรัฐมนตรีได้มอบหมาย เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับกลไกลการปฏิบัติงานของศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) จะมีการประชุมติดตามข้อมูลด้านปัจจัยสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำรายวัน รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างคณะทำงานฯ
จากนั้นจะมีการนำข้อมูลดังกล่าวมาประเมินวิเคราะห์ จัดทำแผนที่เสี่ยงภัย วิเคราะห์ ชี้เป้าพื้นที่เสี่ยง เพื่อประกาศแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดเพื่อบริหารจัดการน้ำ รวมถึงแจ้งเตือนไปยังจังหวัด อำเภอ สื่อมวลชนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่เพื่อเตรียมการรับมือเผชิญเหตุ โดยศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) จะมีการปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง
“สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 67 อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับสถานการณ์ในฤดูฝนปีนี้ โดยสำหรับการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) เป็นการนำมาตรการที่ 6 ลงมาสู่การปฏิบัติจริง โดยเป็นการดำเนินงานควบคู่ทั้งในเชิงป้องกันล่วงหน้าและแก้ไข เพื่อลดผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้ได้มากที่สุด ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี โดยการดำเนินงานของศูนย์ฯ จะเป็นการบูรณาการและอำนวยการการปฏิบัติของหน่วยงานในพื้นที่ในการดำเนินการควบคุม ป้องกัน ลดผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ แจ้งเตือนประชาชน รวมถึงประสานการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีเอกภาพเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว ทั้งนี้ สทนช. จะมีการรายงานผลการดำเนินงานไปยัง กนช. อย่างต่อเนื่อง เพื่อรายงานรองนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีรับทราบต่อไป โดยขณะนี้ได้มีการจัดตั้งศูนย์ฯ รวม 2 แห่ง ในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างไรก็ตาม สทนช. ได้มีการติดตามประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์ทั่วประเทศอย่างใกล้ชิดเพื่อดูแลประชาชนในทุกพื้นที่” เลขาธิการ สทนช. กล่าว
ธานนท์ ตรีพลอักษร รายงาน