ตีเนียนอ้างจูงวัวกินหญ้ากลางดึก ถูกทหารพรานที่ 35 สกัดจับได้ก่อนนำขึ้นรถส่งขายต่อ

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 15 ก.ค.67 พันเอก องอาจ สัมพันธ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อย 3507 ออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา เฝ้าตรวจพื้นที่รับผิดชอบบริเวณบ้านแม่สลิดหลวง หมู่ที่ 2 ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ขณะที่ลาดตระเวนอยู่นั้นได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัยจำนวน 8 คน โดยมีพฤติการณ์กำลังเดินลากจูงโคจำนวนหนึ่ง ผ่านมาทางลำห้วยแม่สลิดโพโกร ข้าง อบต.แม่สอง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและขอทำการตรวจสอบโคดังกล่าว พบโคเพศผู้จำนวน 20 ตัว จากการสอบถามผู้จูงวัวทั้งหมดบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้นำโคออกมากินหญ้ากลางดึกเพราะอากาศเย็นดี แดดไม่ร้อน แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อตรวจสอบไม่มีใบอนุญาตเคลื่อนย้ายจากสัตวแพทย์ภายในพื้นที่ และไม่พบเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ รวมถึงเอกสารประจำตัวสัตว์ที่สามารถระบุแหล่งที่มาของสัตว์ดังกล่าวได้

ซึ่งต่อมาจากการสอบถามผู้จูงโคทั้งหมดให้การว่า ได้รับการติดต่อจากนายหน้าให้ไปทำการลากจูงโคดังกล่าว จากริมแม่น้ำเมยฝั่งไทย บริเวณพื้นที่บ้านแม่สลิดหลวง ซึ่งลักลอบนำโคเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ จากบ้านวะสึโค๊ะ รัฐกระเหรี่ยง ประเทศเมียนมา แล้วข้ามแม่น้ำเมยเข้ามายังประเทศไทย โดยได้ทำการลากจูงโคทั้งหมดลัดเลาะตามภูมิประเทศผ่านลำห้วยแม่สลิดโพโกร เพื่อนำไปส่งยังจุดนัดหมาย ทุ่งนาบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 1 บ้านแม่สลิดหลวง หมู่ที่ 2 ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง เพื่อมุ่งหน้าไปทางบ้านแม่ระเมิงและจะมีรถกระบะคอกมารับโคทั้งหมด เพื่อนำไปขายต่อ แต่ไม่ทราบที่หมายปลายทาง โดยทั้งหมดจะได้รับค่าจ้างจากการลากจูงโค ในราคาตัวละ 250 บาท ต่อตัว ต่อคน 

สำหรับโคทั้งหมดทางเจ้าหน้าที่ทหารพราน 3507 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอแม่สอด ได้ร่วมกันตรวจสอบ พบว่าโคดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตเคลื่อนย้ายจากสัตวแพทย์ภายในพื้นที่และไม่พบเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ รวมถึงเอกสารประจำตัวสัตว์ที่สามารถระบุแหล่งที่มาของสัตว์ดังกล่าวได้ ซึ่งหากเป็นที่สัตว์ที่ลักลอบนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจะส่งผลให้เป็นพาหะของโรคระบาดสัตว์ เป็นการกระทำโดยผิดกฎหมายและส่งผลเสียหายทางเศรษฐกิจต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ภายในประเทศ โดยจำนวนโค 20 ตัว คิดมูลค่าประมาณ 560,000 บาท ตกราคาตัว 28,000 บาท เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ฯ จึงได้ดำเนินคดีกับผู้นำพาโค ฐานลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์ในเขตเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ชนิดปากและเท้าเปื่อย โดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 และได้ยึดโคจากการกระทำผิดดังกล่าว เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เกษมสันต์ ไชยเดช จ.ตาก รายงาน