ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในพิธีเปิดงานวันสถาปนา กยท. ครบรอบปีที่ 9 ว่า 9 ปีที่ผ่านมา กยท. เป็นองค์กรกลางที่มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ มีความผูกพันกับชีวิตพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางไทย และมีผลงานเด่นเป็นที่ประจักษ์หลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 1 ปีหลัง ที่มีการเดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการด้านยางพาราอย่างจริงจัง จนเป็นที่ยอมรับและได้รับความน่าเชื่อถือจากกลุ่มผู้ซื้อและผู้เกี่ยวข้องในภาคอุตสาหกรรมยาง ควบคู่กับมาตรการต่างๆ ภายใต้นโยบายรัฐบาลในการพัฒนาและแก้ไขปัญหายางพาราอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ นโยบายการจัดการทรัพยากรทางการเกษตร ทำเกษตรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยการบริหารจัดการคาร์บอนเครดิตในสวนยาง ระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ภายใต้กฎระเบียบ EUDR ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และการผลักดันโครงการโฉนดต้นยางพารา โฉนดเพื่อการเกษตรในพื้นที่สวนยาง แปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุนเพื่อนำไปต่อยอดในอาชีพ ช่วยให้พี่น้องชาวสวนยางมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
"กยท. เดินทางมาถึงปีที่ 9 ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 สิ่งสำคัญที่น่าภาคภูมิใจ คือ กยท. ได้ช่วยขับเคลื่อนการสร้างเสถียรภาพด้านราคายางและเพิ่มรายได้ให้พี่น้องชาวสวนยาง ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องสูงสุดในรอบ 7 ปี ขอให้ภาคภูมิใจว่า องค์กรแห่งนี้มีบทบาทสำคัญในการสร้างรากฐาน การขับเคลื่อน การพัฒนา ให้ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง สู่การเป็นผู้นำด้านยางพาราที่สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม" รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าว
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้เกียรติมอบรางวัลชนะเลิศสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางดีเด่น เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางดีเด่นระดับประเทศ และมอบโล่รางวัลยกย่องเชิดชูคนดีมีคุณธรรม กยท. ประจำปี 2567 แก่พนักงานและลูกจ้างที่มีความทุ่มเท ตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่คดโกงหรือหาผลประโยชน์อื่นใดในองค์กร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการขับเคลื่อนงานตามภารกิจเพื่อประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในวงการยางพาราต่อไป
ด้าน นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ กล่าวว่า กยท. ก่อตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 เพื่อเป็นองค์กรกลางรับผิดชอบดูแลการบริหารจัดการยางพาราของประเทศทั้งระบบอย่างครบวงจรและได้เดินทางเข้าสู่ปีที่ 9 ในวันนี้ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ทำให้เห็นแล้วว่าเรามุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนาและแก้ไขปัญหายางพาราอย่างครบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีนวัตกรรมมาสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องชาวสวนยาง และผู้ประกอบการ เช่น ระบบ Thai Rubber Trade ที่นำเทคโนโลยี Block chain มาใช้กับการซื้อขายยางในตลาดกลางยางพาราของ กยท.ทั้ง 8 แห่ง ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายมั่นใจ
รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ กยท. กล่าวต่อว่า อีกทั้ง กยท.ยังนำนวัตกรรมต่างๆ มาช่วยในการจัดการยางพาราทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เริ่มจากการบริหารจัดการภายในสวนยางไปจนถึงการเก็บเกี่ยว เพื่อเพิ่มคุณภาพและปริมาณของผลผลิตยางยางพารา สร้างรายได้สูงสุดให้เกษตรกร รวมถึงการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานยางพารา ผลักดันสู่สินค้าเชิงพาณิชย์ โดยการเปิดตัวล้อยางและผลิตภัณฑ์ยางภายใต้แบรนด์ “Greenergy” ของ กยท. ที่ใช้วัตถุดิบยางจากเกษตรกร สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้น ขยายโอกาสการแข่งขัน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับยางพารา
นายสุขทัศน์ กล่าวอีกว่า เนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 9 กยท. จึงถือโอกาสนี้เปิดตัว “รถ Mobile Unit” ในโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บ CESS (Smart CESS) ซึ่งเป็นรถตรวจสอบการชำระค่าธรรมเนียมของ กยท. มีการนำเทคโนโลยี GPS Tracking เข้ามาใช้ในการติดตามรถขนส่งยางที่ผู้ประกอบการลงทะเบียนไว้ โดยเตรียมประจำจุดให้บริการ ณ ด่านศุลกากรทั้ง 6 แห่ง กระจายทั่วประเทศในเดือนตุลาคมนี้ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวร้านค้า “Greenergy Shop by RAOT” ประจำ กยท. สำนักงานใหญ่ ซึ่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากยางพารา เป็นการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงผู้บริโภคและเพิ่มช่องทางสร้างรายได้เกษตรและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางอีกทางหนึ่ง
ภายในงานมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ การมอบหุ่นยางพาราฝึกช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ให้แก่หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อนำไปใช้เรียนรู้ ฝึกปฏิบัติให้แก่บุคลากรในสังกัดและประชาชนทั่วไป นอกจากนี้มีการจัดแสดงผลงานเด่น งานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านยางพาราของ กยท. อีกมากมาย รวมถึงโซน Farm Local to Global Showcase ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นไทยสู่มาตรฐานโกอินเตอร์ (ของดี 7 เขต) จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปยางพาราและสินค้าบริโภคซึ่งเป็นผลผลิตจากการจัดการสวนยางยั่งยืนจากเกษตรกรชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกร และผู้ประกอบกิจการยาง ภายใต้การดูแลและสนับสนุนจาก กยท. ทั้ง 7 เขต.