ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
กาฬสินธุ์-ชาวบ้านลุกฮือ ขอให้ นอภ.ช่วยที
26 ก.ค. 2567
ชาวบ้าน ผู้สูงอายุ หอบสังขาร เรียกร้อง นอภ.นามน ช่วยเหลือ สมาชิกกว่า 1,750 ราย ฝากเงินสถาบันการเงินชุมชนกว่า 19 ล้านบาท ต้องการถอนเงินไปใช้จ่ายภายในครัวเรือน กลับไม่มีเงินให้ถอน เหตุปล่อยกู้ให้ลูกหนี้กว่า 22 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15-18 ต่อปี จนขาดสภาพคล่อง
 
(25 ก.ค.67) นางอ้อมอารีย์ ยี่วาศรี นายอำนามน รับหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.หลักเหลี่ยม จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งลงชื่อกว่า 75 ราย พร้อมระบุจำนวนเงินที่นำเงินเก็บสะสมไปฝากกับสถาบันการเงินชุมชนสังคมพัฒนา ตำบลหลักเหลี่ยม มีเงินฝากรวมกว่า 13 ล้านบาท
 
โดยชาวบ้าน ซึ่งมีทั้งผู้สูงอายุ คนเฒ่าคนแก่ ได้ฝากเงินกับธนาคารชุมชนดังกล่าวคนละ 50,000 - 2,000,000 ล้านบาท ตั้งแต่ก่อตั้งธนาคารชุมชนขึ้นมามีทุนหมุนเวียนกว่า 35 ล้านบาท จากแรงจูงใจค่าตอบแทนให้อัตราดอกเบี้ยเงินผู้สูงอายุ และสมาชิกทั่วไป ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 12-15 บาทต่อปี หรือ ร้อยละ 2 บาทต่อเดือน ทำให้มีชาวบ้านแห่นำไปฝากสะสมทำให้ธนาคารชุมชนมีสมาชิกกว่า 1,750 ราย รวมยอดเงินฝากของสมาชิกว่า จำนวนกว่า 19,000,000 บาท
 
 
 
สถาบันการเงินชุมชนดังกล่าวได้นำไปฝากกับสถาบันการเงินของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งในพื้นที่ ได้รับดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ต่อปี ไม่เพียงพอสำหรับจ่ายดอกเบี้ยให้กับสมาชิกที่ตกลงเอาไว้ในอัตราร้อยละ 2 บาทต่อเดือน จึงได้นำเงินไปปล่อยกู้กับชาวบ้านทั่วไป คิดอัตราดอกเบี้ยกับลูกหนี้ร้อย 15-18 บาทต่อปี โดยไม่ได้คำนึงว่าผู้กู้ไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน 100,000 บาทค้ำประกันให้ผู้กู้ก็สามารถกู้เงินกับสถาบันการเงินชุมชนดังกล่าวได้
 
ต่อมาเมื่อช่วงวิกฤติโควิค-19 สถาบันการเงินดังกล่าวประสบปัญหาลูกหนี้ไม่สามารถนำเงินมาชำระหนี้ได้ตามกำหนดได้จนถึงปัจจุบัน จึงเกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง ไม่สามารถคืนเงินฝากให้กับสมาชิกที่มาขอถอนเงินเพื่อนำไปใช้จ่ายในคราวจำเป็นได้ เนื่องจากสถาบันการเงินชุมชนดังกล่าวไม่มีเงินหมุนเวียนเพียงพอที่จะเบิกจ่ายให้กับสมาชิกได้ พร้อมกับลดอัตราจ่ายดอกเบี้ยให้กับสมาชิกจาก ร้อยละ 2 บาทต่อเดือน เป็น ร้อยละ 1 บาท, ร้อยละ 0.75 และท้ายที่สุดปัจจุบันสถาบันการเงินชุมชนดังกล่าวจ่ายอัตราดอกเบี้ยให้กับสมาชิดเพียง ร้อยละ 0.50 บาทต่อเดือน
 
จึงเป็นที่มาของวันนี้ (25 ก.ค.67) ชาวบ้านสังคมพัฒนา ต.หลักเหลี่ยม อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสมาชิกและเป็นผู้ฝากเงิน กว่า 13 ล้านบาท รวมจำนวน 75 5 ราย รวมตัวยื่นหนังสือให้ นางสาวอ้อมอารีย์ ยี่วาศรี นายอำเภอนามน ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้โดยเร็วที่สุด
 
เบื้องต้น นางสาวอ้อมอารีย์ ได้ติดตามให้ นายทรัพย์ เหมสมัคร ประธานสถาบันการเงินชุมชนตำบลหลักเหลี่ยมสังคมพัฒนา พร้อมด้วยคณะกรรมการรวม 15 ท่าน มารับทราบปัญหาความเดือดร้อนของมวลสมาชิก และหาแนวทางแก้ไขปัญหา
 
 
โดยนายทรัพย์ ชี้แจงถึงแนวทางแก้ไขปัญหาเบื้องต้นว่า 1.ให้สมาชิกผู้ฝากเงินฝากออมพิเศษ ช่วยกันติดตามทวงหนี้เป็นรายบุคคลต่อบุคคล (จับคู่ลูกหนี้-ผู้มีเงินฝากฯ ซึ่งมียอดหนี้ และเงินฝากเท่าๆกัน ให้ถวงหนี้กันเอง ซึ่งชาวบ้านไม่เห็นด้วย) 
 
2. ให้ทนายแจ้งยอด ทวงหนี้ไปยังลูกหนี้ (ชาวบ้านไม่เห็นด้วย) 3 ให้สมาชิกรายที่ได้รับความเดือดร้อนไปกู้เงินกับ ธกส.ในพื้นที่มาสำรองจ่ายไปก่อน (ชาวบ้านไม่เห็นด้วย)
 
4. ขอความอนุเคราะห็อัยการคุ้มครองสิทธิเชิญลูกหนี้ไปไกล่เกลี่ยหนี้ 
และ 5.ส่งเรื่องฟ้องร้องต่อศาล (ชาวขอให้คณะกรรมการชุมชน ชี้แจงงบการเงินประจำเดือน โดยรายงานเป็นลายลักษณ์แจ้งให้ทราบ โดยให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามากำกับดูแล เนื่องจากสถานบันการชุมชนดังกล่าว ไม่ได้จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย)
หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...