วันนี้ 26 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัด/ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี/ผู้อำนวยการจังหวัด เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้จังหวัดกาญจนบุรีโดย ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่ อ.เมืองกาญจนบุรี อ.สังขละบุรี อ.ทองผาภูมิ อ.ศรีสวัสดิ์ อ.ไทรโยค และ อ.ด่านมะขามเตี้ย รวม 6 อำเภอ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลับพลันน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 24-31 ก.ค.2567
โดยให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ (กอปภ.อ.) กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนตำบล (กอปภ.ทม./ทต.) และหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยดำเนินการติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า กรณีน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ให้ติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะชุมชนที่อาศรัยอยู่ตามเชิงเขาและริมแม่น้ำแควน้อย แควใหญ่ และแม่น้ำแม่กลอง
ที่ผ่านมาฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.จนถึงปัจจุบัน นำป่าได้เอ่อล้นไหลหลากออกมาจากลำห้วยอู่ล่อง เข้าท่วมถนนทางหลวง 323 สายทองผาภูมิ-สังขละบุรี ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี บริเวณด้านหน้าหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นพค.11) ทำให้รถขนาดเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้
ซึ่งนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ดร.จิตรกร ว่องประเสริฐ นายกเทศมนตรีตำบลท่าขนุน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) จิตอาสา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ปัจจุบันน้ำป่ายังคงไหลหลากเข้าท่วมถนนสายดังกล่าวเช่นเดิมเนื่องจากฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องขับด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะรถขนาดเล็ก เพราะระดับน้ำที่ไหลหลาสูงถึง 60-70 เซนติเมตร
ขณะเดี่ยวกันเมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมาจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับรายงานจากนายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค ว่า ฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอไทรโยค ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำในแม่น้ำแควน้อยได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนบริเวณท่าเรือปากแซง หมู่ 3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
นายอำเภอไทรโยค จึงได้ร่วมกับนายกิรติ จิณแพทย์ ปลัดอาวุโสอำเภอไทรโยค นายโชคชัย อู่โภคิน ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นางสาวอณัฎญ์ชา ทับพรหม ปลัดป้องกันอำเภอไทรโยค สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอไทรโยคที่7 รวมทั้งนายกเทศมนตรีน้ำตกไทรโยคน้อย และจิตอาสาพระราชทาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำแม่น้ำแควน้อยเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชน พร้อมมอบถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและพูดคุยให้กำลังใจโดย หากเหตุการณ์สิ้นสุดลงจะได้ร่วมกันลงพื้นที่ในการสำรวจความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบทางราชการต่อไป
โดยร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี มีความห่วงใยประชาชนเป็นอย่างมาก เบื้องต้นท่านได้ขอความร่วมมือไปยังเขื่อนวชิราลงกรณ ให้งดการระบายน้ำชั่วคราว และขอความร่วมมือไปยังเขื่อนแม่กลอง อ.ท่าม่วง ให้ยกบานประตูเขื่อนเร่งการผันน้ำเพื่อบรรเทาสถานการณ์อุทกภัย ให้กับพี่น้องประชาชนอำเภอทองผาภูมิและอำเภอไทรโยค นอกจากนี้ยังได้ให้นายอำเภอทองผาภูมิ และนายอำเภอไทรโยค ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเร่งรัดการสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อรรถพล แพสอาด ผบ.ร้อย ตชด.134 อ.สังขละบุรี นำเจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.134 ร่วมกับผู้ประกอบการชาวเรือและประชาชนในพื้นที่ กำจัดเศษไม้ และขยะที่ลอยมากีดขวางติดใต้ตอม่อสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ และบริเวณแพลูกบวบ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ. กาญจนบุรี เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะทำให้สะพานชำรุดหรือเสียหาย และเป็นอันตรายแก่นักท่องเที่ยวหรือราษฎรที่ใช้เป็นเส้นทางเดินสัญจรไปมาได้ และที่สำคัญเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยสะพานพังถล่มเมื่อวันที่ 28 ก.ค.2556 ซึ่งเหลืออีก 2 วันก็จะครบ 11 ปีเต็ม
ทั้งนี้อยากจะฝากเตือนไปถึงประชาชนที่ประสบกับอุทกภัยน้ำท่วมทุกครัวเรือน ให้ระวังสัตว์มีพิษทุกชนิดให้ดี เพราะสัตว์เหล่านี้อาจจะหนีภัยน้ำท่วมเข้าไปอาศัยอยู่ตามบ้านเรือนของท่านได้โดยเฉพาะในที่นอน ผ้าห่ม หรือแม้กระทั่งห้องน้ำและรองเท้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับปริมาณน้ำในแม่น้ำแควน้อยมีปริมาณที่สูงขึ้น ขอให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำให้ป้องกันทรัพย์สินด้วยการเก็บเอาไว้ในที่สูง ส่วนชาวแพขอให้ผูกเอาไว้ให้แข็งแรงเพื่อป้องกันน้ำพัดพาไป หากไม่ดำเนินการอาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ทั้งในพื้นที่ สังขละบุรี ทองผาภูมิ และอำเภอไทรโยค เวลานี้ทุกแห่งมีความสวยงามมาก แต่ทางเจ้าหน้าที่กำลังเฝ้าติดตามดูแลนักท่องเที่ยวใกล้ชิด และประเมินสถานการณ์ หากไม่ปลอดภัยอาจจะประกาศงดไม่อนุญาตให้เข้าไปท่องเที่ยวได้เพื่อความปลอดภัย และเวลานี้ท้องฟ้ายังปกคลุมไปด้วยเมฆฝนตกลงมาต่อเนื่องในหลายพื้นที่./
///////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์