ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
นายกฯ เตรียมประชุมแก้น้ำท่วมทั้งระบบ 5 ส.ค.นี้
30 ก.ค. 2567

​นายกฯ เตรียมประชุมแก้น้ำท่วมทั้งระบบ 5 ส.ค.นี้ กำชับแก้ปัญหาพื้นที่ท่วมซ้ำซาก สั่งการเร่งบูรณาการปราบยาเสพติด เผย ครม.เห็นชอบผลิตพยาบาลเพิ่มกว่าหมื่นคน พร้อมอนุมัติงบดำเนินงานโครงการมวยไทย soft power

วันนี้ (30 กรกฎาคม 2567) ณ บริเวณโถงกลาง  ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูฝนหลายพื้นที่มีฝนตกต่อเนื่อง เกิดปัญหาน้ำท่วม โดยได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานความมั่นคงบูรณาการทำงาน บริหารจัดการน้ำทั้งระบบโดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ลงตรวจพื้นที่ภาคตะวันออกและรายงานว่ายังสามารถควบคุมได้อยู่ แต่จะมีการลงตรวจพื้นที่ภาคอีสานเพราะว่าน่าจะมีปัญหาที่หนักกว่า จึงอยากให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ปัญหาในพื้นที่ที่เกิดขึ้นอย่างซ้ำซาก ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าวันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม ตนเองจะไปประชุมบูรณาการแผนการจัดการเรื่องน้ำทั้ง ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาวที่กรมชลประทาน เพื่อหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในหลาย ๆ พื้นที่ ในต่างจังหวัด  โดยได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหมทำงานร่วมกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้ทหารเข้ามาช่วยเหลือดูแล ถ้าเกิดปัญหาเรื่องน้ำท่วม แต่เหนือสิ่งอื่นใดต้องมีการไปดูในพื้นที่ที่มีการท่วมแล้วท่วมอีก และมีการป้องกันได้ดีก็ต้องมาหาการแก้ไขกันภายหลัง
 
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รายงานถึงการแก้ไขปัญหาเรื่องปลาหมอคางดำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสนใจ โดยได้ตั้งคณะกรรมการมาแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำพร้อมเสนอร่างการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำทั้งหมด 7 มาตรการ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาวโดยทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะแถลงต่อไป
 
นายกฯ ระบุ ได้มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  และสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งคณะกรรมการปราบอาชญากรรมทางไซเบอร์ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนไม่ให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบ สืบเนื่องมาจากสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ไปประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการขอความช่วยเหลือมาว่าปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่ใหญ่หลวงแล้วก็ไม่ได้แค่เพียงสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเดียวที่มีความเกี่ยวข้องการพร้อมทั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม MDES กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีปัญหาต้องติดต่อกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการตั้งคณะกรรมการแก้ไขอย่างบูรณาการ
 
นายกฯ กล่าวว่า  ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งบูรณาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้หมดไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3 เดือน ใน 25 จังหวัด โดยเน้นย้ำใน 25 จังหวัดเป้าหมาย เตรียมขยายผลไปในจังหวัดอื่น ๆ ตลอดจนพิจารณาการให้เรื่องของรางวัลนำจับให้แก่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการที่สำเร็จเป้าหมายอย่างเหมาะสมและรวดเร็ว ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่มีการประชุม โดยหลาย ๆ จังหวัดทำได้เกินเป้าเลยและหลาย ๆ จังหวัด ที่ยังมีการทำได้ต่ำกว่าเป้า ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ไปช่วยกำชับดูว่าจังหวัดไหนที่ยังต่ำกว่าเป้าก็ให้ไปเร่งดำเนินการ ส่วนเรื่องของรางวัลนำจับก็เป็นหนึ่งในหลายมาตรการที่จะต้องนำมาแก้ไขและปรับปรุงเพื่อให้แรงจูงใจกับเจ้าหน้าที่ด้วย รวมไปถึงการที่ต้องให้มีงบประมาณที่เพียงพอแล้วก็ยุทโธปกรณ์ที่พร้อมเพรียงในการที่จะต้องดูแลตัวเอง ซึ่งเมื่อมีการจับมากขึ้นก็มีความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ
 
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เสนอโครงการผลิตบุคลากร สาขาพยาบาลศาสตร์ ปีการศึกษา 2566 - 2570 เพื่อผลิตพยาบาลวิชาชีพในระดับปริญญาตรีให้เพียงพอรองรับการขยายศักยภาพในด้านการสาธารณสุขของประเทศในทุกภาคส่วนโดยตั้งเป้าหมายผลิตพยาบาลเพิ่ม 16,000 คน วงเงิน 7,000 ล้านบาท โดยถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญขาดแคลนบุคลากรทางด้านการพยาบาลไม่ใช่แค่ประเทศไทยอย่างเดียวทั่วโลกด้วย  พยาบาลของเราที่มีศักยภาพผลิตออกมาแล้วถูกดึงตัวออกจากระบบราชการ รวมถึงพยาบาลในระบบเอกชนก็ถูกดึงตัวไปข้ามประเทศไปทำงานที่ประเทศอื่น ๆ เป็นจำนวนมาก โดยปัจจุบันปัญหาเรื่องของสังคมสูงวัยต่าง ๆ  รวมไปถึงนโยบายหลักของประเทศโดย IGNITE THAILAND  Wellness เรื่องการต้องการภาคพยาบาลมีความต้องการอย่างสูงมาก ต้องขอขอบคุณทางกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ที่ให้ความสำคัญและเร่งด่วนในจัดการเรื่องนี้
 
นายกฯ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามความเห็นของกระทรวงการคลังที่ กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ การดำเนินโครงการสินเชื่อ SME Green Product Activity จำนวน 15,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SME เข้าถึงแหล่งเงินทุนขั้นต่ำและมีสภาพคล้องที่พอเพียงที่สามารถปรับปรุง กิจการขยายธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการรวมทั้งการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมสีเขียว ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนึ่งในหลาย ๆ มาตรการที่ทางด้านกระทรวงการคลังได้เสนอ
 
นายกฯ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลางเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการมวยไทย soft power 2567 จำนวน 275 ล้านบาท เพื่อยกระดับมวยไทยจากศิลปะต่อสู้ป้องกันตัวประจำชาติ สู่ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวระดับโลกโดยจะมีการดำเนินการเช่น 1. จัดหลักสูตรมวยไทย 2. อบรมผู้ตัดสินและผู้ฝึกสอน 3. ตั้งศูนย์เข้าสอบมาตรฐานสมรรถนะครูมวยไทย 4. จัดการแข่งขันมวยไทยทั้งในและต่างประเทศ จัดแผนกิจกรรมเผยแพร่มวยไทย ตรวจรองรับค่ายมวยในต่างประเทศ ซึ่งดังกล่าว เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากขึ้นเพราะว่าไม่ใช่เป็นแค่ soft power อย่างเดียว เป็นเรื่องของกีฬามวยไทยที่ชาวโลกรู้จักดี สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด มีคำว่า “ไทย” อยู่ด้วยเพราะฉะนั้น การที่จะบิดเบียนเรื่องว่ามาจากประเทศไหนอะไรอย่างไร ก็คงไม่มีการถกเถียงกันได้แต่ว่าอย่างไรก็ตามมีกีฬาที่อาจจะมีความคล้ายกับมวยไทย ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เราต้องระมัดระวัง เพราะฉะนั้นการที่เราเป็นเจ้าของมวยไทยอยู่แล้ว พูดได้อย่างเต็มปาก  ตนเองเลยได้เสนอกับรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาว่าฟุตบอลก็มี FIFA เป็นองค์กรเป็นกำกับ เพราะฉะนั้นเรื่องของมวยไทยอาจจะต้องมีอะไรบางอย่างที่คล้ายกับ FIFA ของมวยไทยมากำกับเพื่อให้รู้แน่นอนว่าเป็นเรื่องของกีฬาคนไทยเราเป็นผู้จัดเราเป็นผู้ที่คิดริเริ่ม โดยยกระดับจากระดับภายในประเทศของเราให้เป็นระดับสากลได้
 
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการภาษีในการสนับสนุนคนไทยที่มีศักยภาพที่ทำงานในต่างประเทศให้กลับเข้ามาทำงานในประเทศตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาลูกจ้าง ผู้ที่มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ ลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ของนายจ้างด้วยที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมายโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการคลังจะแถลงต่อ ถือเป็นการที่ดึงผู้มีความชำนาญหรือความสามารถพิเศษ จากต่างประเทศกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยเฉพาะยิ่งในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านจากอุตสาหกรรม Low Profit ไปเป็น Hight Profit เป็นอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่เราต้องการมีผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานจากเมืองนอกกลับเข้ามา

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 กันยายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...