เกษตรกรเลี้ยงปลารายใหญ่เมืองกาญจน์สูญกว่าเสียหาย 30 ล้านบาท ขอกำลังทหารจิตอาสากองพลทหารราบที่ 9 ลงพื้นที่ช่วยเร่งเก็บซากปลาตายลอยในกระชังที่เน่าส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งทั่วท้องน้ำ หวั่นทำระบบนิเวศน์ในลำน้ำเสีย เจ้าของน้ำตาตกวอนผ่านสื่อไปยังเจ้าของส่งอาหารปลาขอผ่อนผันการชำระหนี้ออกไปก่อน เวลานี้หมดสิ้นประกอบอาชีพมากว่า 20 ปี หายวับไปกับสายน้ำ นอกจากนี้กระชังแห่งนี้ยังมีอีกหลายจุดที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน มีการขึ้นทะเบียนไว้กับกรมประมงถูกต้องแต่คงไม่เพียงพอกับการสูญเสียในครั้งนี้
วันนี้ 31 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง บริเวณริมลำแม่น้ำแควน้อย บริเวณหมู่ที่ 2 ตำบลจรเข้าเผือก อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี ได้พบกับเจ้าหน้าที่ทหารจิตอาสาจากกองพลทหารราบที่ 9 กรมทหารราบที่ 19 พัน 3 จำนวน 30 นาย ได้เดินทางไปช่วยเหลือเก็บซากปลาที่ลอยน้ำเน่าส่งกลิ่นเหม็นอยู่ในกระชัง ซึ่งกระชังแห่งนี้เป็นของ นายสมศักดิ์ มธุรสสุวรรณ ซึ่งเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังรายใหญ่เมืองกาญจน์ มีกระชังเลี้ยงปลารายเดียวมากถึง 220 กระชัง เจ้าตัวถึงกับน้ำตาตก เล่าบอกว่าเลี้ยงมากว่า 20 ปี เพิ่งประสบเจอความรุนแรงมากในครั้งนี้ ก่อนหน้านี้วันที่ 26 – 27 ที่ผ่านมาระดับน้ำขึ้นสูงเกือบ 10 เมตร ไหลเชียวแรงมาก ปลาในกระชังที่กำลังเตรียมจับได้เจอน้ำป่าที่มาเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว แม้ทางผู้นำท้องถิ่นได้มาแจ้งให้ระวังล่วงหน้าแล้วก็ตาม ทำให้ปลาในกระชังทั้งหมดเกิดจากสายน้ำที่ไหลแรง จนปลาที่อยู่ในกระชังไปกระแทกกันจนหมดอากาศหายใจ เกิดน็อกตายลอยกันเป็นแพอย่างที่เห็น ซึ่งปลาทั้งหมดในครั้งนี้ลงทุนไปกว่า 30 ล้าน และครอบครัวประกอบอาชีพนี้มากว่า 20 ปี ไม่เคยพบเจอแบบนี้มาก่อน ครั้งนี้ถึงขั้นหมดสิ้นหายไปกับสายน้ำทันที จนต้องมาเป็นหนี้เป็นสิ้น ในค่าอาหารที่ไปนำมาเลี้ยงก่อน เมื่อจำหน่ายปลาได้แล้วก็จะนำไปใช้หนี้ แต่พอมาเจอแบบนี้ถึงขั้นหมดตัวต้องเป็นหนี้ต่อไป ต้องฝากวอนขอความเห็นใจไปถึงเจ้าของอาหารให้ช่วยผ่อนผันการชำระหนี้ออกไปก่อน
และจากซากปลาที่ตายลอยอยู่เป็นจำนวนมากเกือบล้านตัว ทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ ตายเกลื่อน ทางเจ้าของกระชังซึ่งมีคนงานไม่เพียงพอกับการเก็บซากปลา จึงได้ร้องขอกำลังทหาร จากกองพลทหารราบที่ 9 กรมทหารราบที่ 19 พัน 3 จำนวน 30 นาย ไปช่วยเก็บตักปลาตายขึ้นไปไว้บนฝั่ง เนื่องจากปลาที่ตายเริ่มส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วลำน้ำบริเวณแล้ว และสังเกตพบว่าบางกระชังเริ่มเน่าเปื่อยและดำแล้วหากปล่อยไว้จะทำให้ระบบนิเวศน์ของน้ำให้เกิดเน่าเสียได้ ทางเจ้าของได้ฝากสื่อผ่านไปยังหน่วยงานใดทั้งภาครัฐและเอกชน หากต้องการจะได้ซากปลาเหล่านี้ ทางเจ้าของกระชังปลาแจ้งว่าพร้อมให้ ฟรี ขอให้นำรถเข้าไปบรรทุกสามารถนำไปทำปุ๋ยได้
...........นายสมศักดิ์ มธุรสสุวรรณ เจ้าของกระชังปลาให้สัมภาษณ์ทิ้งท้าย...........
โอกาสนี้บรรดาผู้ประกอบการเลี้ยงปลาในกระชัง ได้ร้องเรียนผ่านสื่อมาว่า กระชังปลาแต่ละแห่งส่วนใหญ่จะใช้แรงงานต่างชาติ แต่เมื่อแรงงานเหล่านี้ประสบปัญหาน้ำท่วมที่พักจนได้รับความเสียหาย เช่นเอกสารต่างๆ แต่ทางนายจ้างก็ยอมดำเนินการให้ถูกต้องทุกอย่างหลังจากเสร็จสิ้นเรื่องแก้ไขกระชังเลี้ยงปลาก่อน เมื่อนายจ้างไปแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ ตม. ได้รับคำตอบกลับมาว่าต้องไปแจ้งความเป็นหลักฐานไว้ และก็จะต้องเสียค่าปรับรายละ 2,000 บาท ซึ่งเรื่องนี้อยากจะให้เจ้าหน้าที่ ตม.เห็นใจเนื่องจากนายจ้างที่มีแรงงานต่างชาติ เมื่อเกิดภัยพิบัติก็เดือดร้อนมากอยู่แล้ว ขออย่าได้ซ้ำเติมกัน ขอความเห็นใจน่าจะมีการผ่อนผันไปก่อน ทางนายจ้างได้ร้องฝากผ่านสื่อฯ ไปยังหัวหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เห็นใจด้วย./
//////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์