ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมชาวเรือชาวแพจังหวัดกาญจนบุรี นำโดย นายภานุวัฒน์ ศีลแดนจันทร์ นายกสมาคมฯ พร้อมด้วย พลโทชินโชติ บุญยไพศาลเจริญ ที่ปรึกษาสมาคมฯ ได้นำอุปกรณ์กระชอนหรือสวิงตาข่าย 20 อัน ถุงดำ 100 ใบ มาจัดเตรียมทำกิจกกรรม "ชาวเรือชาวแพร่วมใจ คืนความสุขสะอาดให้สายน้ำ" โดยใช้เรือยนต์ที่ใช้ลากแพ จำนวน 12 ลำ และคนเรือคนแพที่มีจิตอาสานั่งเรือไปเก็บซากปลาทับทิมที่ลอยอยู่ในแม่น้ำแควน้อย และมีผู้ประกอบกิจการแพ นำอาหารและเครื่องดื่มมาจัดเตรียมเป็นเสบียงให้กับภารกิจนี้ ที่ท่าเทียบแพบ้านลิ้นช้าง ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
จากกรณีที่แม่น้ำแควน้อย มีปริมาณน้ำสูงขึ้นจากฝนตกหนักติดต่อหลายวันนั้น ทำให้กลุ่มผู้เลี้ยงปลาทับทิมได้รับความเดือดร้อนสาหัส จากน้ำที่สูงขึ้นและน้ำขุ่นทำให้ปลาทับทิมน็อคน้ำตายเป็นจำนวนมาก และกระชังปลาทับทิมยังถูกกระแสน้ำพัดพากระชังหลุดลอยไป บางส่วนจมในแม่น้ำปลาทับทิมหลุดไปในแม่น้ำแควน้อยนั้น หลายวันที่ผ่านมามีปลาทับทิมลอยตายในแม่น้ำจำนวนมาก ส่งกลิ่นเหม็ด ทำให้แม่น้ำสกปรก ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก สมาคมชาวเรือชาวแพจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยสมาชิกได้ตัดสินใจทำกิจกรรมเก็บปลาทับทิมที่ลอยตายนำไปทิ้งอย่างถูกต้อง โดยผู้ประกอบกิจการแพอาหารและแพล่อง ได้นำเรือยนต์มาทั้งหมด 12 ลำ พร้อมคนตักปลาจิตอาสาของแพมาช่วยเก็บในครั้งนี้
นายภานุวัฒน์ ศีลแดนจันทร์ นายกสมาคมฯ กล่าวว่าที่บริเวณปลายทางของแม่น้ำแควน้อย ก็อยู่ตรงที่บริเวณที่แม่น้ำทั้ง 2 สายไหลเป็นบรรจบกันที่บริเวณหน้าเมืองกาญจนบุรี จะไหลรวมกันเป็นแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของปลาทับทิมที่ตายที่หลุดออกจากกระชังปลามานั้น ลอยในแม่น้ำและริมตลิ่งส่งกลิ่นเหม็น และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีแพอาหาร และพักที่อยู่ริมแม่น้ำ ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนและมาใช้บริการ ปลาทับทิมที่ตายก็จะส่งกลิ่นเหม็นรบกวน และเป็นมลภาวะทางน้ำ พวกเราชาวเรือชาวแพ ซึ่งได้ตัดสินใจทำกิจกรรมในครั้งนี้โดยความร่วมมือของท่านสมาชิก วันนี้เรารอไม่ได้ เพราะเราต้องช่วยเหลือตัวเองเสียก่อน
สำหรับเรือยนต์ที่ออกไปพร้อมอุปกรณ์ แล้วตั้งเป็นขบวนเรียงหน้ากระดานแล้วขับเรือย้อนน้ำแม่น้ำแควน้อย ขึ้นไปจนถึงบริเวณท่าน้ำหน้าวัดถ้ำเขาปูน ตำบลหนองหญ้า ซึ่งตรงจุดนั้นก็จะเป็นจุดที่ปลาทั้งหมดจะไหลมาอยู่ที่บริเวณนั้นด้วย ก็ใช้สวิงตักปลาทับทิมแล้วใส่ในถุงดำมัดปากถุงไว้และนำไปทิ้งวางที่จุดที่ได้มีการนัด กับทางเทศบาลเมืองปากแพรก ในการนำรถขยะมาจัดเก็บและนำไปทิ้งน้ำลายยังสถานที่เหมาะสม ซึ่งใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 2 ชั่วโมง จนกระทั่งมีฝนตกจึงได้ยุติการทำกิจกรรมในครั้งนี้
ระหว่างนั้นได้มี นายปรีชา เพชรเลิศ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 นายจรินทร์ บุตรวงษ์ เจ้าพนักงานตรวจท่าชำนาญการ รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากาญจนบุรี นายภานุพงศ์ แผ่แผ่นทอง เจ้าพนักงานตรวจท่าปฏิบัติการ งานตรวจการขนส่งทางน้ำ มาติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ผลกระทบของผู้ประกอบการชาวเรือชาวแพ รวมทั้งหารือถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้กำลังใจกับผู้ที่เสียสละในการทำกิจกรรมในครั้งนี้อีกด้วย
//////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์