ทีมงานเฝ้าช้างไม่ออกมา แต่พอกลับพักช้างลงมาอาลวาด ยอมรับว่าเอาไม่อยู่ ช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่า ลงมาทุกวันชาวบ้านได้รับผลกระทบและเดือดร้อนอย่างหนัก
วันนี้ 05 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ พื้นที่ หมู่ 3 บ้านโป่งปัด ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายวสันต์ สุนจิรันต์ กำนันตำบลช่องสะเดา ได้รับแจ้งจาก น.ส.พรประภา เสนาบุตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 พร้อมชุดปฎิบัติการเครือข่ายเฝ้าระวังช้างป่าและสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ (อส.อส.) พบร่องรอยช้างป่าไม่ทราบจำนวนเข้ามาบริเวณไร่ นายสัญญา เสนาบุตร ช้างได้เข้าทำลายพืชไร่มันสัมปะหลัง และทรัพย์สินท่อน้ำประปารับความเสียหาย และบริเวณที่ไร่ของนางเล็ก ช้างป่าได้เข้ามาทำลายต้นไม้บริเวณสวนและป้ายสวนได้รับความเสียหาย
ล่าสุดจุดเดิมช้างป่าได้เข้ามาอีกรอบ บริเวณไร่ของ 2 ตา - ยาย โดยคุณยายทองเลี่ยม ขณะนอนอยู่ภายในบ้านกับ คุณตา ได้ยินเสียงต้องสดุ้งตื่น โดยช้างป่าได้เข้าปะชิดติดชายคาบ้านกลางหมู่บ้านโป่งปัด 2 ตา - ยาย กลัวช้างป่าบุกบ้านสุดท้ายช้างป่าก็เข้าไปทำลายพืชผลทางการเกษตรเสียหายเช้าไปดูทิ้งเพียงร่องรอยว้ให้ดูต่างหน้า
ต่อมา นายวัสนต์ สุนจิรัตน์ กำนันตำบลช่องสะเดา ได้รับแจ้งจาก น.ส.คณัสนันท์ น้อยทิพย์ สารวัตรกำนัน ว่าเมื่อประมาณใกล้รุ่งที่ผ่านมา ได้มีช้างป่าไม่ทราบจำนวนบุกเข้าบ้าน นางทองเลี่ยม ราคา บ้านเลขที่ 26 หมู่ 3 บ้านโป่งปัด ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
โดยบ้านดังกล่าวเป็นของ คุณยายเลี่ยม ได้มาแจ้งว่า เมื่อประมาณตีสามกว่าๆ ได้ยินเสียงช้างเข้ามาชิดชายคาบ้าน ก่อนพากันเข้าไปกินพืชไร่ แต่ทั้ง 2 ตา - ยาย ไม่กล้าออกไปดู เพราะอยู่กันสองคนตาอายุมากแล้วโดย คุณตา อายุ77 ปี คุณยาย อายุ 75 ปี แล้วด้วยความที่อายุมากแล้วกันทั้งคู่เลยไม่ได้ออกไปดู รอจนถึงเช้าออกมาแจ้งกับตน น.ส.คณัสนันท์ น้อยทิพย์ สารวัตรกำนัน พร้อมนายมานิต เสนาบุตร อส.อส.เฝ้าระวังช้างป่าและสัตว์ป่า ขอช่วยผลักดันให้ช้างป่าออกนอกพื้นที่ ก่อนลงพื้นที่ตรวจพบความเสียที่เกิดจากช้างป่า เข้ามาพบว่าความเสียหายประกอบด้วย ต้นกล้วย มะพร้าว และรั้วกั้นเขตบ้านได้รับความเสียหาย
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ.พื้นที่ หมู่ที่ 6 บ้านท่ากะทิ ตำบลช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายวสันต์ สุนจิรัตน์ กำนัน ต.ช่องสะเดา (ที่ปรึกษากรรมาธิการการแก้ไขปัญหาช้างป่า จังหวัดกาญจนบุรี) ได้รับแจ้งจาก นายประจวบ วัยยิ่งยุทธ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านท่ากะทิ ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เวลาประมาณ 02.00-04.30.น.ได้มีช้างป่าไม่ทราบจำจำนวนเข้าทำลายพืชผลทางการเกษตรในไร่ของนายบรรจบ กรุณกรุด. นายทวน กรุณกรุด น.ส.น้ำอ้อย หลักศิลา นายษราวุฒ ทองสุข. น.ส.ศนิล ชรากุล นายเกษม เหตะโยธิน น.ส.โสภา ศรีมัจฉา ช้างป่าได้ทำลายพืชผลท่งการเกษตรไร่มันสัมปะหลังเสียหายยับเยิน
จึงแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่คอยเฝ้าระวัง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตน ช้างป่าลงมาทุกวันชาวบ้านได้รับผลกระทบและเดือดร้อนอย่างหนัก ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทุกภาคส่วนได้มีมาตรการแก้ไข เยียวยา อย่างเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน มีการดำรงชีพที่ดีขึ้น และใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
นายวสันต์ สุนจิรัตน์ แจ้งว่า ช้างป่า ออกนอกพื้นที่ป่า ลงมาทุกวัน ชาวบ้านได้รับผลกระทบและเดือดร้อนอย่างหนัก ช้างป่าเริ่มออกอาลวาดหนักถี่ขึ้นทุกวัน ยอมรับว่าเอาไม่อยู่แล้วจริงๆ หัวค่ำจัดชุด อาสาสมัครออกลาดตระเวนไปตามหมู่บ้าน ตามไร่ของเกษตรกร แต่ก็ไม่พบ และด้วยความเหนื่อยล้า แยกย้ายกลับไปพักผ่อน พอใกล้รุ่งช้างป่าก็ลงออกจากป่ามาอาลวาดตามหมู่บ้าน รวมถึงพืชสวนของชาวบ้านเสียหายย่อยยับไปทุกครั้ง วอนขอความเมตตาจากหน่วยงานที่รับผิดชอบด้วยช่วยหาทางดูแลแก้ไขปัญหาช้างป่าในพื้นที่บ้านช่องสะเดาให้ประชาชนได้นอนอย่างสุขสบายด้วย ยอมรับว่าเอาไม่อยู่จริงๆ ช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่า ลงมาทุกวันชาวบ้านได้รับผลกระทบและเดือดร้อนอย่างหนัก
//////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์