นายกฯ สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพ “บัณฑิตแรงงาน” กลไกการดำเนินการเชิงรุกในพื้นที่ นำร่องจังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างงาน สร้างสันติสุขพร้อมต่อยอดขยายผลทั่วประเทศ ตั้งเป้าปี 2569 มีบัณฑิตแรงงานครบ 878 อำเภอ เป็นที่พึ่งพาของประชาชนในพื้นที่ทั่วประเทศ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีนโยบายมุ่งเน้นการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงาน และประชาชนทุกกลุ่มในทุกพื้นที่ พร้อมสนับสนุนการผลิตและพัฒนาศักยภาพบัณฑิตแรงงาน เพื่อเป็นตัวแทนของกระทรวงแรงงานภาคประชาชนเชื่อมโยงกับประชาชนในพื้นที่ ให้ข้อมูลข่าวสาร และให้บริการด้านแรงงาน รวมถึงส่งเสริมอาชีพและการจ้างงาน โดยนำร่องจ้างงานบัณฑิตแรงงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว มีการบริหารจัดการที่เข้มแข็ง เป็นที่พึ่งของประชาชนและผู้เกี่ยวข้องได้ พร้อมต่อยอดขยายผลทั่วประเทศ ตั้งเป้าหมายผลิตบัณฑิตแรงงานให้ครบ 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายในปี 2569
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงแรงงานขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรี เดินหน้าผลิตบัณฑิตแรงงาน โดยที่ผ่านมาได้นำร่องจ้างงานบัณฑิตที่จบปริญญาตรีและเติบโตมาจากในท้องถิ่น เข้ามาเป็นบัณฑิตอาสาแรงงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา (จะนะ นาทวี เทพา สะบ้าย้อย) จำนวน 380 คน เป็นกลไกการดำเนินการเชิงรุก ขับเคลื่อน ช่วยเหลือการดำเนินภารกิจในระดับพื้นที่ อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน เพื่อให้แรงงานทุกคนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ตอบโจทย์ส่งเสริมการมีงานทำ แก้ไขปัญหาเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษา และการจ้างงาน ปัญหาการค้ามนุษย์ พัฒนาศักยภาพของกลุ่มแรงงานอิสระ และช่วยสร้างสันติสุขในพื้นที่อย่างยั่งยืน สำหรับในปี 2567 กระทรวงแรงงานได้จ้างงานเพิ่มขึ้นอีก 113 คนทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 493 คน พร้อมตั้งเป้าหมายผลิตบัณฑิตแรงงานให้ครอบคลุม 878 อำเภอทั่วประเทศไทย ภายใน 2 ปี หรือภายในปี 2569 เพื่อเป็นกลไกพัฒนาแรงงานอย่างยั่งยืนต่อไป
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังเสริมความแข็งแกร่ง ผ่านการจัดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “การพัฒนาศักยภาพการให้บริการด้านแรงงานในพื้นที่ โดยบัณฑิตแรงงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567” ช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาศักยภาพบัณฑิตแรงงาน ผลักดันให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น สนับสนุนการใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร และอธิบายข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน เช่น โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งกลุ่มอาชีพอิสระ กองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน สิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนมาตรา 40 เป็นต้น
“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เดินทางลงพื้นที่หลายครั้ง เน้นย้ำให้เกิดการพัฒนาเพื่อความเจริญรุ่งเรือง เน้นย้ำส่งเสริมความเชื่อมโยง พัฒนาเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ซึ่งการพัฒนาตามแนวทางของนายกรัฐมนตรีจะสร้างโอกาสให้แรงงานในพื้นที่มีงานทำ จะเป็นอีกหนึ่งกลไกเชิงรุกที่ผลักดันให้เกิดการพัฒนาในพื้นที่ นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของแรงงานและประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน” นายชัย กล่าว