โอลิมปิก ถอยไปก่อน วันนี้ 6 สิงหาคม2567 ที่โดมกิจกรรมองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูมได้จัดโครงการแข่งขันกีฬานักเรียนผู้สูงอายุ ประจำปีงบประมาณ 2567โดยทางฝ่ายผู้จัดได้มีการตั้งขบวนพาเหรดซึ่งมีกลุ่มสีของนักกีฬาโรงเรียนผู้สูงอายุเข้าร่วม ทั้งสีแดง สีเหลือง สีเขียวและสีชมพูเข้าร่วมเดินพาเหรดโดยแต่ละคนจัดกันมาเต็มเพราะกลัวสู้เด็กนักเรียนอนุบาล ศูนย์อนุบาลเด็กท่าตูมที่มาร่วมเดินด้วยไม่ได้
งานนี้แน่นอน ความน่ารักที่จัดกันมาเต็มเหนี่ยวเรียกทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับผู้ที่มาร่วมงาน เริ่มจากขบวนพาเหรดขบวนแรก ที่ทางนักกีฬาผู้สูงอายุสีแดงได้แต่งตัวคล้ายกับเงาะป่า โดยมีดรัมเมเยอร์สวมใส่กระโปรงสีแดงถือคฑาเดินนำขบวนพาเหรดอย่างคล่องแคล่ว ทั้งนี้ยังมีกลุ่มนักกีฬาผู้สูงอายุที่เรียกเรียกทุกสายตาให้หันไปมองก็คือสีชมพู แต่คนสวมใส่นั้นเป็นชายแต่งใบหน้าคล้ายกันกับเด็กอนุบาล ส่วนสีเหลืองก็ไม่ย่อยเรียกเสียงหัวเราะได้เช่นกันเมื่อทางนักกีฬาผู้สูงอายุนำวิกผมมาใส่และแต่งใบหน้าสวมใส่โบว์
มาถึงช่วงการแข่งขันกีฬาประเภทแรกเป็นการแข่งขันกีฬาประเภทวิ่งผลัด 5 คูณ 10 โดยการแข่งขันในกีฬาประเภทนี้ทางผู้สูงอายุสามารถส่งผู้เข้าร่วมการแข่งขันได้ไม่เกินทีละ 5 คน ซึ่งวิธีการแข่งขันแต่ละทีมนั้นคนที่ 1 จะต้องหนีบกระบอกน้ำอยู่ระหว่างขาเพื่อนำไปส่งต่อคนที่ 2 วิ่งคนละ 10 เมตรเริ่มวิ่งจากจุดที่ 1 ไปจนถึงจุดที่ 5 จนวิ่งเข้าไปสู่เส้นชัย จะเรียกว่าเป็นความฮาหรือสงสารก็ไม่รู้ เมื่อทีมผู้แข่งขันสีเหลืองที่วิ่งไปขวดก็จะหลุดออกจากขาจนต้องใช้มือตบเข้ามาบริเวณหว่างขาตลอดเวลา ทำเอาบรรดากองเชียร์ลุ้นไปแบบใจหายใจคว่ำกลัวว่านักกีฬาจะตบผิดและตบแรงอาจทำให้แพ้กลางคัน
ต่อมาเป็นการแข่งขันกีฬาประเภทปิดตาแต่งหน้า ซึ่งให้นักกีฬาส่งผู้เข้าร่วมการแข่งขันได้ไม่เกินทีมละ 2 คน วิธีการแข่งขัน 1 คนเป็นผู้ปิดตาอีก 1 คนเป็นหุ่นแต่งหน้าหุ่นสามารถพูดบอกแนะนำตำแหน่งบนใบหน้าแก่ผู้ปิดตาได้ ซึ่งทั้งสองต้องช่วยกันทำให้รูปลักษณ์บนใบหน้าออกไปสวยไน 5 นาที หรือจนกว่าผู้ตัดสินกระเป๋านกหวีดหมดเวลา โดยหลังจากแข่งขันไปแล้วนั้น ทางผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่ถูกปิดบังใบหน้า ได้มีการละเลงอุปกรณ์แต่งหน้าให้กับอีกฝั่งอย่างมันมือ ซึ่งหลังจากที่ทางกรรมการเป่านกหวีดหมดเวลา ทางฝ่ายผู้แต่งหน้าที่ถูกปิดตาเปิดผ้าออกมาถึงกับหัวเราะลั่น กับฝีมือที่ทางผู้เข้าแข่งขันทั้งสองฝ่ายแต่งหน้าให้กัน ซึ่งเรียกความน่ารักและเรียกเสียงหัวเราะให้กับผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันและผู้ชมภายในสนามเป็นอย่างมาก
สุดท้ายเป็นการแข่งขันกินวิบาก โดยผู้จัดการแข่งขันได้นำส้มโอจำนวน 1 ลูกมาตั้งบริเวณจุดแรก ส่วนจุดที่ 2 จะเป็นการให้ผู้เข้าการแข่งขันกีฬาประเภทนี้ดื่มแดงคนละ 1 ขวด ส่วนอุปสรรคที่ 3 จะเป็นการช่วยกันร้อยเข็มเย็บผ้าจำนวน 2 อัน จุดสุดท้ายจะให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันผูกเชือกเข้าที่ขา เป็นการเดินสามขาเพื่อไปยังจุดเส้นชัย หลังจากที่ทางกรรมการได้เป่านกหวีดปล่อยจุดสตาร์ททางนักกีฬาผู้สูงอายุสีเหลืองได้ทำการแข่งขันปอกเปลือกส้มโอกิน จนหมดก่อนสีอื่นๆจากนั้นได้เดินทางไปที่จุดดื่มน้ำแดงทางนักกีฬาผู้สูงอายุสีเหลืองก็สามารถที่จะทำเวลาและทำการดื่มน้ำแดงจนหมดก่อนกลุ่มสีต่างๆ แต่แล้วอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับกลุ่มนักกีฬาผู้สูงอายุสีเหลืองหลังจากที่ทำการแข่งขันและนำโด่งมาก่อนใครเพื่อน ก็เกิดอุปสรรคกับการช่วยกันร้อยเข็มเย็บผ้าจำนวน 2 อัน จนทำให้กลุ่มสีนักกีฬาผู้สูงอายุสีต่างๆพากันแซงจนเข้าเส้นชัยไปจนหมด
สรุปสุดท้ายแล้วนักกีฬาทุกคนไม่ได้คาดหวังรางวัลหรือการแพ้ชนะ ทุกคนต้องการแค่ความรักความสามัคคีของหมู่คณะ
ธนปกรณ์ วิศวามิตร / ปราจีนบุรี
081-2863615