พบแรงงานชาวกัมพูชา กับลูกชายวัย 7 ขวบเดินเท้าเพื่อกลับบ้านที่ประเทศกัมพูชาหมดแรงขอนอนพักในตู้อาสากู้ภัย หลังถูกนายจ้างโกงค่าแรง
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ตำบลหนองโพรง อำเภอศรีมหาโพธิ ปราจีนบุรี ว่าได้มีแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา เป็นชายวัย 39 ปีพร้อมลูกชายวัย 7 ขวบ เดินเท้ามาจากตำบลเขาหินซ้อน เขตอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อจะเดินเท้ากลับกัมพูชา แต่เกิดความเหนื่อยล้า จึงมาขออาศัยหลับนอนในบริเวณป้อมอาสากู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานจุดบ้านวัดใหม่ประชุมชนชน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจุดบริการประชาชน 304 เข้าทำการตรวจสอบ
เบื่องต้นพบว่าแรงงานชายชาวกัมพูชา ดังกล่าว ได้ปูเสื่อนอนบริเวณข้างป้อมอาสา โดยมีสัมภาระที่ขนมาเป็นตะกร้าผ้าพร้อมผ้าห่มและสมุดเรียนของลูกชาย ลักษณะคล้ายกับเสื่อผืนหมอนใบที่วางนอนอยู่บริเวณข้างป้อมอาสาสมัครกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน
จากการสอบถามลูกชายวัย 7 ขวบของแรงงานกัมพูชาได้ว่าแม่ของตนได้เสียชีวิตไปแล้ว ได้เดินทางมาทำงานพร้อมกับพ่อที่ประเทศไทยเป็นเวลา 2 ปีแล้ว
และจากการตรวจสอบบัตรประชาชนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าแรงงานต่างด้าวรายนี้ชื่อนายเกือน ใหม่ เป็นชาวกัมพูชาเดินทางมาทำงานในประเทศไทยที่จังหวัดระยอง โดยเดินทางมาถูกต้องตามกฎหมาย และอยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งตนและลูกชายกลับประเทศกัมพูชา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อธิบายขั้นตอนระเบียบการของการส่งตัวกลับประเทศ ว่าจะต้องมีการจับกุมตัวส่งให้กับเจ้าหน้าที่ร้อยเวรในพื้นที่ ก่อนจะมีการออกใบผลักดันกลับประเทศ ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจุดบริการประชาชน 304 ยังได้มอบเงินสดให้กับทางนายเกือน ใหม่ ของลูกชายเป็นจำนวนหนึ่ง ก่อนที่จะนำตัวนายเกือนและลูกชายส่งร้อยเวรสอบสวนสภ. ระเบาะไผ่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
จากการสอบถามนายเกือน ใหม่ ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่าสาเหตุที่ตนต้องเดินเท้ากลับเขมรเพราะว่าทางตนไปสมัครงานลำบากเพราะไม่มีบัตร ก่อนหน้านี้ตนมีบัตรที่สามารถทำงานในประเทศไทยได้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ถูกนายจ้างซึ่งเป็นคนไทยยึดบัตรตนไว้ ซึ่งแต่ก่อนตนทำงานที่บ้านแหลม ก่อนที่จะถูกนายจ้างคนปัจจุบันไปนำตัวตนมาทำงานก่อสร้างที่ใช้งานพื้นที่เขาหินซ้อน ซึ่งหลังจากที่ตนมาทำงานในช่วงอาทิตย์แรกก็มีรายได้ดี ทางนายจ้างจ่ายเงินให้ตลอด ทำให้ตนไม่อยากที่จะเบิกเงินอยากกที่จะมีเงินเป็นก้อน แต่หลังจากนั้นพอจะไปเบิกเงิน ทางนายจ้างก็ผลัดผ่อนที่จะจ่ายเงินให้กับตนตลอดเวลา จนทำให้ตนรู้สึกไม่พอใจหลังจากที่ทวงเงินแล้วไม่ได้เงินค่าแรงตามที่ต้องการ จึงได้พาลูกชายวัย 7 ขวบเดินเท้าเพื่อที่จะกลับกัมพูชา โดยตนเดินเท้ามาจากเขาหินซ้อนมาพักที่นี่ได้ 4 วันแล้ว ตลอดทางจะได้รับความอนุเคราะห์จากชาวบ้านและอาสาสมัครในพื้นที่ นำข้าวนำอาหารมาให้ตนได้กินกัน ซึ่งในแคมป์ก่อสร้างที่ตนทำงานนั้นมีแรงงานที่ถูกโกงมาก่อนหน้านั้นแล้ว แล้วก็ได้พากันออกจากแคมป์ก่อสร้างดังกล่าวไปก่อนตนอีก
นายสมคิด ของนา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ได้กล่าวเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวว่าเบื้องต้นได้รับการประสานงานจากทางอาสาสมัครกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน ทางตนและทางผู้ช่วยได้ลงตรวจสอบ เบื้องต้นทราบว่าเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเขมร ถูกนายจ้างในละแวกเขาหินซ้อนไม่จ่ายค่าแรง ส่วนลูกชายของแรงงานชาวเขมรก็ได้มีการเรียนอยู่ที่โรงเรียนหนองกลางดง ในเขตตำบลเขาหินซ้อน เบื้องต้นตนก็ได้สอบถามประมาณนั้น โดยได้รับแจ้งว่าทั้งสองพ่อลูกแรงงานต่างด้าวนั้นเดินเท้ามาจากตำบลเขาหินซ้อน เนื่องจากถูกนายจ้างโกงค่าแรงทำงานแล้วไม่ได้ค่าจ้าง โดยทางตนหลังจากทราบข่าวก็ได้มีการแจ้งทางเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ แล้วก็ได้มีการซื้อข้าวมาให้กับทางสองพ่อลูกได้กินกัน
ทั้งนี้ยังมีชาวบ้านในพื้นที่จากได้รับทราบข่าวได้มาติดต่อนายเกือน ไปทำงานฉาบปูน แต่ละแวกที่ในเกือนอาศัยอยู่ในช่วงระหว่าง 4 วัน โดยนายเกือนมีฝีมือในการฉาบปูนหรือว่าอยู่ในระดับช่าง ซึ่งก็ได้ค่าแรงกลับมา 4 ถึง 500 บาท จนทำให้นายเกือนและลูก มีเงินที่พอจะซื้อข้าวซื้อน้ำกิน แต่ติดในเรื่องเอกสารที่จะเดินทางกลับประเทศ จึงทำให้นายเกรียนและลูกชายเดินทางหรือประสานทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง มอบตัวเพื่อที่ให้มีเอกสารส่งมอบตัวกลับประเทศตามที่นายเตือนต้องการ
ธนปกรณ์ วิศวามิตร / ปราจีนบุรี
081-2863615