รวมตัวยื่นหนังสือคัดค้านไม่ให้สร้างตลาดสดแห่งใหม่ ของเก่าดีอยู่แล้วเอกลักษณ์ท้องถิ่น
วันนี้ 14 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดสดสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ได้รวมตัวกัน 50 คนถือป้ายเดินจากตลาดสดอำเภอสังขละบุรี ไปยังที่ว่าการอำเภอสังขละบุรี โดย นางบูญศรี หุ่นประดิษฐ์ นางสาวชนิดาภา แก้วจันทร์ นายจันรอง สังขละจำเริญ พร้อมหนังสือเพื่อยื่นให้กับ นายดำรงรัตน์ สุภาพัฒน์ ปลัดอำเภอสังขละบุรี ตัวแทนนายอำเภอ มารับหนังสือเป็นที่เรียบร้อย พร้อมแจ้งกับตัวแทนที่ยื่นหนังสือว่า หลังจากนี้จะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยเร็วเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดสด เรื่องดังกล่าวที่มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารวมตัวกันมายื่นหนังสือ
สืบเนื่องมาจากพ่อค้าแม่ค้าตลาดสดอำเภอสังขละบุรี ได้รับแจ้งจากสำนักงานท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ให้ย้ายข้าวของออกจากตลาดสดอำเภอสังขละบุรี เพื่อที่จะได้ทำการก่อสร้างตลาดสดแห่งใหม่ กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าได้รวมตัวกันมาคัดค้านเพื่อไม่ให้ทำการก่อสร้างเนื่องด้วยไม่มีสถานที่ขายของแห่งใหม่รองรับจากการย้ายครั้งนี้ อยากจะคงอนุรักษ์ของตลาดเอาไว้ให้เป็นมนต์เสน่ห์ของเมืองสังขละบุรี
เดิมทีตัวอำเภอสังขละบุรีตั้งอยู่พื้นที่ราบลุ่ม อาชีพชาวบ้านเดิมเกษตรกรรม การประมงน้ำจืด เก็บหาของป่า หลังจากมีการก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม (ชื่อเดิม) ปัจจุบันชื่อเขื่อนวชิราลงกรณ หลังจากสร้างเสร็จ ในปี 2527 ได้มีการปิดเขื่อนเพื่อการเก็บกักน้ำ นำมาผลิตกระแสไฟฟ้า ใช้เพื่อทางการเกษตรตอนใน และช่วยผลักดันน้ำทะเลออกจังหวัดสมุทรสงคราม
หลังจากนั้นชาวบ้านที่โดนน้ำท่วมจากปัญหาการเก็บกักน้ำของเขื่อน ได้จัดสรรที่ดินทำกินให้กับชาวบ้านเกษตรกรตามตกลง นายสุนทร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ และครอบครัว ได้เล็งเห็นปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านอำเภอสังขละบุรี เรื่องอุปโภคบริโภคสิ่งจำเป็นชีวิตประจำวัน จึงได้มีแนวคิดที่จะสร้างตลาดสดในปี 2532 ได้จัดสร้างตลาดสดอำเภอสังขละบุรี เพื่อให้ชาวบ้านได้มีตลาดสด ประจำอำเภอสังขละบุรี ไว้ซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค โดยใช้เงินส่วนตัวสร้างให้ โครงสร้างทำด้วยไม้แดงทั้งหมด ความกว้างประมาณ 80 เมตร ความยาวประมาณ 150 เมตร คิดเป็นมูลค่าการก่อสร้างปัจจุบันไม่ต่ำกว่าหลัก 10 ล้านบาท ตลาดสดอำเภอสังขละบุรี ถือได้ว่ากลายเป็นส่วนหนึ่งของกลิ่นไอหรือแลนมาร์คที่สำคัญของสังขละบุรี นักท่องเที่ยวต่างชื่นชอบไปแล้ว นายสุนทร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ มอบให้ชาวบ้านอำเภอสังขละบุรี ไว้ใช้เพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น และจากการสอบถามผู้ค้าบางรายแจ้งว่าปัญหาคือ หากมีการย้ายไปพื้นที่ใหม่ ความสะดวกจะไม่เหมือนเดิม จึงเกิดมีการเดินไปยื่นหนังสือกับทางนายอำเภอสังขละบุรีให้ช่วยระงับจากจุดเดิมไปจุดที่จัดหาใหม่./
/////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์