สองสามี ภรรยาที่ยากจน หลังทราบว่าบ้านทรุดโทรม มาแรมปี ฝนตกฟ้าร้องน้ำรั่ว ขณะที่เจ้าตัวไม่เคยเอ่ยคำขอ
ส่วนที่จังหวัดสระบุรี ผุ้สื่อข่าวได้ทราบมาว่าได้มีกลุ่มเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญ พื้นที่ อ.วิหารแดง จ. สระบุรี โดยกลุ่มเพื่อน อาสาได้กำลังช่วยกันต่อเติมช่วยเหลือบ้านที่ของอาสาของพวกตนเองที่ทรุดโทรม มานาน กันอย่างภาคภูมิใจและไม่เหน็ดเหนื่อย ผุ้สื่อทราบทราบจึงได้เดินทางมาที่บ้านดังกล่าว ตั้งอยุ่เลขที่ 47/ 2 ม. 6 ต. เจริญธรรม อ.วิหารแดง จ. สระบุรี พบ กลุ่มอาสาสมัคร่วมกตัญญู ร่วม 10 นาย ที่กำลังช่วยกันช่อมแชมบ้านไม้มุงด้วยสังกะสีเก่า ๆ ฝาผนังข้างบ้านปิดด้วยแสลมสีเขียว รอบด้วน โดยที่หลังคานั้นเป็นรูรั่วยากที่กันฝนได้ ซึ่งมองดูแล้วเป็นเพียงกระต๊อบหลังหนึ่งก็ว่าได้ ที่เป็นที่พักอาศัยนอนเป้นไปวันๆ ซึ่งผุ้ที่อาศัยอยุ่ก็คือ นาย ประเสริฐ ทองออ่น อายุ 54ปี และ นาง สมศรี วรสิทธิ์ อายุ 54ปี ภรรยา ซึ่งทั้งคู่นั้นเป้นอาสาสมัคร่วมกตัญญูประจำที่ อ.วิหารแดง สระบุรี โดยต่างกันช่วยกันช่อมแชมอย่างสนุกสนาน ไม่เหน็ดเหนื่อย ในภาพของการช่วยเหลือ ชึ่งกันและกัน
ด้าน นาย วัชราพล รวมพล อายุ 49 ปี ซึ่งเป้น หัวหน้าอาสาสมัคมูลนิธิร่วมกตัญญู อ.วิหารแดง จ. สระบุรี ได้เปิดเผยผู้สื่อข่าวว่า โดยวันนี้ตนเองพร้อมเพื่อน อาสาสมัคมูลนิธิร่วมกตัญญู วิหารแดง และ บุรี และใกล้เคียง ได้ต่างร่วมใจกันออกทรัพย์เงินคนละเล็กละน้อย แล้วแต่มี ได้มาชื้ออิฐปูนสังกะสี หรืออุปกรณ์ก่อสร้างบ้าน เพื่อมาทำการช่วยเหลืออาสาสมัค พี่ เสริฐ และพี่สมศรีกัน เพราะหลังทราบมาว่า บ้านพี่เสริฐ นั้นทรุดโทรมมา ฝนตกฟ้าร้องเปียกหมด ลมพัดพาก็กันไม่ได้ ตามที่เห็น ดูแล้วน่าสงการมากพวกตนจึงรวมตัวกันมาช่วยกันปรับปรุงและต่อเติมโดยเงินเป็นของพวกเราช่วยกันเอง ตามที่มี
นาย วัชราพล รวมพล เผยต่อว่า พวกตนเองนั้นเป็นจิตอาสาช่วยเหลือมูลนิธิร่วมกกตัญญูมานาน พร้อมกับ ครอบครัวพี่เสริฐ ร่วม 10 กว่าปี โดยในแต่ละเหตุต่างๆไม่ว่าจะเกิดในพื้นที่ รถชน ไฟไหม้ คนเสียชีวิตต่างๆ ในแต่ละเหตุตนกับเพื่อนๆพี่ๆและครอบครัวพี่เสริฐ ก๋จะออกไปช่วยอย่างต่อเนื่อง จะเป็นช่วยเหลือในทุกๆด้านที่ทราบข่าว แม้แต่ว่า นำท่วมต่างจังหวัดเดินทางไปร่วมเดือนก็มี ซึ่งส่งผลให้เห้นว่าทุกสุขประชาชนที่เดือดร้อนเราเข้าช่วยเหลือหมด
วัชราพล เผยต่อว่า ตนและเพื่อน กู้ภัย พึ่งมาทราบ ไม่กี่วันนี้เอง เพื่อน ก็ภัยเราเอง ได้รับความเดือดร้อนในครอบครัวอย่างเห็นชัด ว่ามรลูกค้าบ้านทรุดโทรมแทบไม่น่าเชื่ออยู่ยากลำบากฝนตกน้ำรั่ว จึงได้เดินทางมาดูทั้งที่ ตัว ลูกข่าย หรือครอบครัวพี่เสริฐ ไม่เคยบอกกล่าวของความช่วยเหลือเลย ว่าตนเองในครอบครัวเดือดร้อน ตนและเพื่อนมาทราบกันเอง จึงได้มีวันนี้ กู้ภัยน้ำใจช่วยเพื่อฟ้อง ส่วนในขณะเดียวกันตนยังทราบอีกว่า ครอบครัวพี่เสริฐและภรรยา ยังมรโรคประจำตัวอีกด้วย แต่ด้วยใจรักช่วยเหลือสังคมต้องมาก่อนต้องออกไปช่วยแทบทุกเหตุ ผมและเพื่อน จึงได้ช่วยกันออกทรัพย์คนละเล็กน้อยมาช่วยครอบครัวลูกข่ายกัน ซึ่งประชาชนทุกที่ผมอาสาสมัคพร้อมเพื่อนยังช่วยได้ทำมัยเมื่อทราบกลุ่มเพื่อนเดือดร้อนทำมันจะช่วยไม่ได้
สมพงษ์ ปานรุ่ง รายงาน สระบุรี