วันที่ 22 สิงหาคม 2567 สมาคมสื่อมวลชนนานาชาติประเทศไทย (IMCT) จัดงาน “BRICS FORUM THAILAND 2024: เปิดโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ เวทีสู่โอกาสใหม่ของไทยในกลุ่ม BRICS ภายใต้แนวคิด “ส่งเสริมความสัมพันธ์ข้ามชาติ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ผ่านมิตรภาพกลุ่ม BRICS” โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยสู่การเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม BRICS ซึ่งจะนำมาซึ่งโอกาสทางเศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว และความร่วมมือด้านต่าง ๆ ณ โรงแรม Anantara Siam Bangkok Hotel
งานนี้ได้รับเกียรติจากเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิก BRICS ประจำประเทศไทย อาทิ H.E. Mr. Evgeny Tomikhin เอกอัครราชทูตแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย, H.E. Mr. Nagesh Singh เอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐอินเดีย, H.E. Mr. Darkey Ephraim Africa เอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐแอฟริกาใต้, และ H.E. Mr. Nassereddin Heidari เอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน และ H.E. Mrs. Hala Youssef Ahmed Ragab, Ambassador of the Arab Republic of Egypt to Thailand รวมถึงประธานหอการค้าประเทศสมาชิก BRICS ในไทยประกอบด้วย Mr. Vitaly Kiselev ประธานหอการค้ารัสเซีย-ไทย, Mr. Neil van Heerden ประธานหอการค้าแอฟริกาใต้-ไทย, Mr. Sushil Kumar Dhanuka ประธานหอการค้าอินเดีย-ไทย และ Mr. Marcelo Souza ประธานหอการค้าบราซิล-ไทย ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่าการขยายตัวของ BRICS ว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจและการเมืองโลกอย่างไรและประเทศไทยควรปรับตัวอย่างไรในยุคระเบียบโลกใหม่ รวมถึงโอกาสและความท้าทายของไทยในด้านเศรษฐกิจ การเงิน การค้า การลงทุน และความเป็นไปได้ในอนาคตที่ไทยจะได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก BRICS
การจัดงาน BRICS FORUM THAILAND 2024 ถือเป็นการแสดงความพร้อมของไทยในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม BRICKS เปิดโอกาสให้ภาครัฐและเอกชนไทยได้เรียนรู้และเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก พร้อมสร้างเครือข่ายกับผู้นำจากประเทศสมาชิก BRICS ไทยหวังใช้จุดแข็งด้านภูมิศาสตร์ ขนาดเศรษฐกิจ และนโยบายต่างประเทศที่สมดุล เพื่อก้าวสู่การเป็นสมาชิก BRICS รายแรกจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ท่ามกลางการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค ขณะเดียวกันก็เป็นจุดเริ่มต้นของการสนทนาที่สร้างสรรค์และการร่วมมือที่เป็นประโยชน์ระหว่างไทยกับประเทศ BRICS
ทั้งนี้ จากศักยภาพทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและเติบโตอย่างต่อเนื่อง BRICS ได้กลายเป็นขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจใหม่ที่น่าจับตามองทั่วโลก ทำให้หลายประเทศทั่วทุกทวีป รวมถึงไทย เวียดนาม มาเลเซียและอินโดนีเซีย ต่างให้ความสนใจและยื่นขอเข้าร่วมเป็นสมาชิก เพื่อเปิดโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนที่มากขึ้น ซึ่งการที่รัฐบาลไทยตัดสินใจสมัครเข้าร่วมกลุ่ม BRICS ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลถึงอนาคตของประเทศ
สำหรับการจัด BRICS Forum Thailand 2024 ครั้งนี้ จะเป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยจะได้แสดงศักยภาพและความพร้อมในการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก พร้อมแสดงความตั้งใจจริงที่จะร่วมมือกันพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้เติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ที่เปลี่ยนไป
นายทนง ขันทอง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า ในขณะที่ BRICS กำลังปรับเปลี่ยนระเบียบเศรษฐกิจโลก เป็นสิ่งสำคัญที่ไทยต้องเข้าใจและใช้ประโยชน์จากโอกาสที่มีอยู่ BRICS เป็นกลุ่มประเทศที่มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลก โดยมี GDP รวมกันถึง 36% ของโลก และคาดว่าจะแซงหน้ากลุ่ม G7 ก่อนปี 2593 งานนี้จะช่วยให้ทุกภาคส่วนของไทยเห็นถึงโอกาสและเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น และหวังว่าการประชุมนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของที่ดีในการสนทนาระหว่างไทยกับประเทศ BRICS
การเสนอตัวเข้าร่วมกลุ่ม BRICS ของประเทศไทย สะท้อนถึงความสำคัญและพลังของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ด้วยประเทศไทยตระหนักถึงความสำคัญของระบบพหุภาคีและบทบาทที่เพิ่มขึ้นของประเทศกำลังพัฒนาในเวทีระหว่างประเทศ ซึ่งวิสัยทัศน์ของไทยสอดคล้องกับหลักการของกลุ่ม BRICS
ขณะเดียวกัน หากประเทศไทยได้รับการอนุมัติเข้าเป็นสมาชิก ประเทศไทยจะเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS รายแรกจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากประเทศที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกต่างก็มีความประสงค์ที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอด BRICS ครั้งที่ 16 ที่เมืองคาซาน สาธารณรัฐสหพันธรัฐรัสเซีย ระหว่างวันที่ 22-24 ตุลาคม 2567 นี้ จึงถือเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับไทยที่จะเร่งกระบวนการเข้าร่วม
เมื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่ BRICS ใช้พิจารณารับสมาชิกใหม่แล้ว พบว่าไทยมีคุณสมบัติหลายประการที่สอดคล้องกัน ทั้งในแง่การกระจายตัวทางภูมิศาสตร์ ขนาดเศรษฐกิจที่ค่อนข้างใหญ่ในภูมิภาค นโยบายต่างประเทศที่สมดุลและเป็นอิสระ ความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกประเทศสมาชิก บทบาทในเวทีนานาชาติ ศักยภาพในการเชื่อมโยงภูมิภาค รวมถึงเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ดี
อย่างไรก็ดี การแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค โดยเฉพาะ มาเลเซีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ แต่การที่ไทยได้แสดงความสนใจอย่างชัดเจนเป็นทางการ อาจเป็นข้อได้เปรียบในการพิจารณา
ด้าน ดร.กำพล มหานุกูล นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน ได้แสดงทรรศนะไว้ว่า การเกิดขึ้นของกลุ่ม BRICS ถือเป็นการสร้างความสมดุลทางอำนาจ จากเดิมที่ชาติตะวันตกครองอิทธิพลเป็นหลัก ไปสู่โลกยุคใหม่ที่มีหลากหลายขั้วอำนาจ ถือเป็นการรวมตัวและดำเนินงานร่วมกันเพื่อสร้างอำนาจในการต่อรองให้แก่ประเทศในซีกโลกใต้ โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งหากไทยได้มีโอกาสเข้าร่วมก็ย่อมจะสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางเศรษฐกิจและการค้า รวมไปถึงด้านอื่นๆ เช่น วงการสื่อสารมวลชน นอกจากนี้ตนมองว่าปัจจุบันเรื่องการเมืองและการค้าเป็นสิ่งที่ไทยต้องสร้างสมดุล และการเข้าร่วมกลุ่ม BRICS ของไทยไม่ถือว่าเป็นการเลือกข้าง แต่เป็นการยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ
ปัจจุบัน กลุ่ม BRICS กำลังเป็นที่จับตามองในเวทีโลก หลังดึงดูดความสนใจจากประเทศกำลังพัฒนากว่า 40 ประเทศ สะท้อนความปรารถนาในการสร้างระเบียบโลกที่ยุติธรรมและเท่าเทียมมากขึ้น BRICS มุ่งเป็นตัวแทนเสียงของประเทศกำลังพัฒนาในเวทีระหว่างประเทศ เช่น ธนาคารโลกและ IMF พร้อมผลักดันแนวคิดโลกหลายขั้วอำนาจและจัดตั้งสถาบันการเงินทางเลือก การขยายตัวนี้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบการกำกับดูแลโลกที่ครอบคลุมและสมดุลมากขึ้น ส่งเสริมพหุภาคีและความร่วมมือระหว่างประเทศ สะท้อนความต้องการของประเทศกำลังพัฒนาในการมีส่วนร่วมกำหนดอนาคตโลก แม้จะท้าทายระเบียบเดิม แต่อาจนำไปสู่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่สมดุลและเป็นธรรมมากขึ้นในอนาคต