ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ทางตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำสะสมไหลลงสู่บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ในอัตราที่เพิ่มขึ้น กรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำท่าและปริมาณฝนที่จะตกลงมาเพิ่มในระยะนี้
ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยถึง สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน( 25 ก.ค.67 เวลา 06.00 น.)ว่า ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 944 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้นตามไปด้วย กรมชลประทาน ได้รับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาในอัตราที่เหมาะสม พร้อมปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 649 ลบ.ม./วินาที คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จึงได้ทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 700 - 900 ลบ.ม./วินาที ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำจากทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้ โดยจะทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) เพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 40 - 80 เซนติเมตร โดยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าวยังคงอยู่ในตลิ่งและไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไปยังจังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำในระยะนี้อย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น กรมชลประทานจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป