วันนี้ (25 สิงหาคม 2567) ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย โดยมี นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน นายทวีวัฒน์ สืบสุขมั่นสกุล ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 4 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และรายงานสถานการณ์น้ำ รวมถึงแนวทางการจัดจราจรน้ำที่จะรับช่วงต่อมาจากจังหวัดแพร่และการป้องกันน้ำหลากในพื้นที่ ณ ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย
ปัจจุบันปริมาณน้ำที่ไหลมาจากจังหวัดแพร่ ได้ไหลมาถึงจังหวัดสุโขทัยแล้ว โดยที่สถานีวัดน้ำ Y.14A อ.ศรีสัชนาลัย เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,333 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่วนที่ตัวเมืองสุโขทัย สถานีวัดน้ำ Y.4 มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 474 ลบ.ม.ต่อวินาที ต่ำกว่ากำแพงป้องกันตลิ่งประมาณ 30-40 เซนติเมตร ระดับน้ำแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำเหนือ โดยการหน่วงน้ำไว้ที่เหนือประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ อ.สวรรคโลก และใช้คลองหกบาท คลองยมน่าน แม่น้ำยมสายเก่า และแม่น้ำน่าน ช่วยตัดยอดน้ำหลากก่อนที่จะเข้าสู่ตัวเมืองสุโขทัย พร้อมควบคุมการระบายน้ำผ่าน ปตร.บ้านหาดสะพานจันทร์ ลงสู่แม่น้ำยมสายหลัก ให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด นอกจากนี้ ได้ระดมกำลังพลนำกระสอบทรายมาเสริมแนวป้องกันริมตลิ่งแม่น้ำยม โดยทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่อย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบเพิ่มเติม พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำอีกหลายจุดในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังตลอดเวลา รวมถึงนำเครื่องจักรเครื่องมือเข้าไปกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ตักเศษซากวัชพืชที่ลอยมากับน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้นด้วย หวังลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนให้มากที่สุด
ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการดำเนินการช่วยเหลือประชาชน ทั้งส่วนกลางและหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้มากที่สุด เนื่องจากระดับน้ำแม่น้ำยมยังไม่พ้นวิกฤต เพราะในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ ร่องมรสุมยังคงมีอยู่ ทั้งนี้ ได้กำชับให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำอย่างเข้มงวด ควบคุมสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย