“สนธิรัตน์”หารือผู้นำเศรษฐกิจ 8 จังหวัดภาคกลาง เตรียมประเด็นก่อนการประชุมครม.สัญจร 5-6 มี.ค.นี้ ตั้งเป้าดันสมุทรสาครเป็น “นครแห่งครัวโลก”เหตุเป็นแหล่งผลิตอาหารทะเลที่หลากหลายเตรียมประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักต่อไป พร้อมเดินหน้าพัฒนาตลาดกลางสัตว์น้ำ ผัก ผลไม้และไม้ตัดดอกส่งเสริมการขึ้นทะเบียนสินค้า GI และผลักดันการท่องเที่ยวท้องถิ่น
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 26 ก.พ.2561 กระทรวงพาณิชย์ได้นำคณะผู้บริหารร่วมหารือกับผู้นำเศรษฐกิจในจังหวัดภาคกลาง 8 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี และสุพรรณบุรี โดยมีผู้แทนจากหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สภาเกษตรกร สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย สมาคมกุ้งไทย สมาคมผู้เลี้ยงกุ้งในพื้นที่น้ำจืด สมาคมชาวประมง ตลาดกลางสัตว์น้ำ ตลาดกลางผักผลไม้ ผู้ส่งออกไม้ดอกไม้ประดับ เข้ามาร่วมหารือที่ห้องประชุมตลาดไท จ.สมุทรสาคร เพื่อกำหนดแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจการค้า และการลงทุน
ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 5-6
มีนาคม 2561 ที่จ.เพชรบุรี และจ.สมุทรสาคร โดยเบื้องต้นที่ประชุมเห็นด้วยกับแผนการส่งเสริมและพัฒนาตลาดอาหารทะเล , การพัฒนาตลาดกลางสัตว์น้ำ ผัก ผลไม้ และไม้ตัดดอก , การขึ้นทะเบียนและใช้เครื่องหมาย GI เป็นเครื่องมือทางการตลาดและการท่องเที่ยวกับการสร้างรายได้ท้องถิ่น
ทั้งนี้ ในการส่งเสริมและพัฒนาตลาดกลางอาหารทะเล กระทรวงฯ เห็นด้วยกับการผลักดันให้ จ.สมุทรสาคร เป็น “นครแห่งครัวโลก” โดยเฉพาะศูนย์กลางอาหารทะเล เพราะมีผลผลิตด้านอาหารทะเลที่หลากหลาย และเป็นแหล่งอาหารทะเลที่สำคัญของไทย และจะสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรู้จักต่อไป เช่น การผลักดันให้เป็นตลาดเฉพาะสินค้า
ส่วนการพัฒนาตลาดกลางสัตว์น้ำ ผัก ผลไม้ และไม้ตัดดอก เห็นว่า มีหลายจังหวัดในพื้นที่ 8
จังหวัดภาคกลาง ที่มีขีดความสามารถในการพัฒนาให้เป็นตลาดกลาง ซึ่งกระทรวงฯ จะเข้าไปช่วยยกระดับตลาด และพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางในแต่ละด้านต่อไป
สำหรับการส่งเสริมสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI)จะเร่งผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียนสินค้า GI โดยเฉพาะ จ.สมุทรสาคร ที่ยังไม่มีการขึ้นทะเบียน แต่มีสินค้าที่อยู่ระหว่างการพิจารณา คือ มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว และมีสินค้าที่น่าจะขึ้นทะเบียนได้ คือลำไยพวงทองสมุทรสาคร และเกลือสมุทรสาคร ซึ่งจะผลักดันให้มีการยื่นขึ้นทะเบียน GI ต่อไป ส่วนจังหวัดอื่นๆ ที่มีการยื่นจดทะเบียน GI แล้ว ก็จะช่วยพัฒนาและช่วยหาช่องทางการตลาดให้กับผู้ผลิต เช่น ลิ้นจี่ค่อมสมุทรสงคราม ส้มโอขาวใหญ่ ชมพู่เพชร มะนาวเพชรบุรี น้ำตาลโตนดเมืองเพชร ขนมหม้อแกงเมืองเพชร ทุเรียนป่าละอู ส้มโอนครชัยศรี สับปะรดบ้านคา เป็นต้น
และยังจะผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียนสินค้า GI รายการใหม่ๆ ด้วย
นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับท้องถิ่น เป็นนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการสนับสนุนและสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก โดยมีแผนเชื่อมโยงการท่องเที่ยวของพื้นที่ ทั้งจ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี กาญจนบุรี สมุทรสงคราม นครปฐม และสุพรรณบุรี และจะผลักดันให้ชุมชนที่เป็นแหล่งผลิตสินค้า ทั้งสินค้าชุมชนสินค้า GI สินค้า OTOP ให้มีการเชื่อมโยงเข้ากับการท่องเที่ยว เพราะเกื้อกูลกันได้ นักท่องเที่ยวมาเที่ยวแล้วก็สามารถซื้อสินค้าเป็นของฝากได้