ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สังคม / บุคคล ย้อนกลับ
ศาลฯพิพากษาจำคุก อดีตสส.เพื่อไทยโกงสนามฟุตซอล3ปี4ด.
07 ก.ย. 2567

ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม.18/2565 หมายเลขแดงที่ อม.31/2567ระหว่างอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสมหญิง บัวบุตร สส.อำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทย กับพวกรวม 12 คน ทุจริตการจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ คดีสร้างสนามฟุตซอล คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อระหว่างเดือน พ.ย.2554 ถึง เดือน ม.ค.2556 โดยโจทก์ฟ้องเมื่อเดือน ก.ย.2565 จำเลย ที่ 1 ร่วมกับจําเลยที่ 2 ขอเพิ่มเติมงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำเลยที่ 1 กำหนดรายชื่อโรงเรียนในเขตพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ เพื่อให้ได้รับจัดสรรงบประมาณ งบแปรญัตติ 15 แห่ง มีการจัดทำบัญชีคุมยอด เชิญผู้อำนวยการโรงเรียนให้เข้าร่วมรับฟังการชี้แจง จำเลยที่ 12 แจกของแผ่นซีดี (CD) และตัวอย่างเอกสาร จำเลยที่ 3 เป็นประธานคณะกรรมการกำหนดราคากลาง ได้นำข้อมูลในแผ่นซีดีมากำหนดราคากลาง เป็น เหตุให้ราคากลางสูงและแพงกว่าราคาท้องตลาด จำเลยที่ 3 พิจารณาอนุมัติแบบรูปรายการปรับปรุงสนามกีฬา สนามฟุตซอล และแบบแปลนสนามกีฬาคอนกรีตเสริมเหล็กที่คัดลอกมาจากแผ่นซีดี

ต่อมาโรงเรียน ทั้ง 12 แห่ง ได้ประกาศประกวดราคาจ้างปรับปรุงสนามกีฬาโดยกำหนดช่วงวันเวลาเดียวกัน ใช้สถานที่บริการ ตลาดกลางทางอิเล็กทรอนิกส์แห่งเดียวกันคือ บริษัทป๊อป เนทเวอร์ค จํากัด โดยเป็นรูปแบบเดียวกันตรง ตามที่ได้คัดลอกข้อมูล (COPY) มีกลุ่มผู้ประกอบการที่ยื่นเสนอราคา 3 ราย คือ จำเลยที่ 4 โดยจำเลยที่ 5 หุ้นส่วนผู้จัดการ จำเลยที่ 6 โดยจำเลยที่ 7 กรรมการผู้จัดการ และจำเลยที่ 8 โดยจำเลยที่ 9 กรรมการผู้จัดการ ซึ่งมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วน และมีพฤติการณ์เข้ามายื่นซองประกวดราคาหมุนเวียนเป็นคู่เปรียบเทียบราคากัน ทั้งปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมหลายรายการในการเสนอราคา เมื่อจำเลยที่ 4 และ 6 ก่อสร้างแล้ว เสร็จตามสัญญาจ้างและส่งมอบงานแล้ว ปรากฏว่าสนามกีฬาฟุตซอลไม่สามารถใช้งานได้จริงตามวัตถุประสงค์ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ

ศาลได้พิพากษาเห็นว่าขณะเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 เพิ่งได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมัยแรกได้เพียง 3 เดือนเศษ และไม่ปรากฏว่าเป็นผู้ได้รับประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน อีกทั้งหลังเกิดเหตุจำเลยได้นำคณะครูไปยังสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 5 เพื่อแจ้งปัญหาการก่อสร้างสนามฟุตซอลไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นเหตุให้มีการบอกเลิกสัญญาการก่อสร้างในบางโรงเรียน และเป็นการยับยั้งไม่ให้เกิดความเสียหาย

ศาลจึงพิพากษาให้มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และ ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 ลงโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน และปรับ 100,000 บาท แต่จำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนจึงให้รอลงอาญา 3 ปี

นางสมหญิง เปิดเผยหลังฟังคำพิพากษาของศาลว่า น้องรับคำตัดสินของและศาลได้ให้ความยุติธรรม เพราะขณะเกิดเหตุได้ยับยั้งความเสียหายแล้ว ส่วนเส้นทางการเมืองหลังจากนี้ อาจไม่กลับไปเล่นการเมือง แต่ถ้าได้รับการสนับสนุนก็จะพิจารณาผลักดันคนในครอบครัว

ส่วนจำเลยที่ 2 พบว่า มีพฤติกรรมมุ่งหวังจะให้มีการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมให้แก่หน่วยงานในสังกัดของตัวเองในการสร้างสนามฟุตซอล เพื่อประโยชน์ของโรงเรียนจริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง มีโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 จำคุก 5 ปี ปรับ 150,000 บาท แต่จำเลยปฏิบัติหน้าที่ราชการมาเป็นเวลานานนับว่ามีคนงานความดีจึงให้รอลงอาญา 3 ปี

ส่วนจำเลยที่ 4-11 พบมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 แต่การนำสืบของจำเลยมีประโยชน์แก่การพิจารณาคดีศาลจึงลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก จำเลยที่ 5, 7 ,9 และ 11 คนละ 1 ปี 4 เดือน

ส่วนจำเลยที่ 4 ,6,8 และ 10 เป็นนิติบุคคล ศาลให้ลงโทษปรับคนละ 14,978,333.33 บาท สำหรับโทษปรับในคดีนี้ให้ดำเนินการตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 หากไม่ชำระค่าปรับภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ศาลพิพากษา จะถูกยึดทรัพย์สินชดใช้แทนค่าปรับ หรือ ถูกกักขังแทนค่าปรับ

ส่วนจำเลยที่ 7 พบว่าขณะร่วมกระทำความผิด เนื่องจากอยู่ภายใต้การครอบงำของนายจ้าง ศาลจึงให้รอลงโทษจำคุก 3 ปี

จำเลยที่ 12 พบว่ามีพฤติกรรมการณ์พยายามกีดกันผู้ประกอบการอื่นไม่ให้สามารถแข่งขันราคาได้อย่างเป็นธรรมซึ่งเป็นการกระทำที่ทำให้ผู้อื่นไม่มีโอกาสเข้าทำการเสนอราคาได้อย่างเป็นธรรมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคา ต่อหน่วยงานรัฐ มาตรา 7 ลงโทษจำคุก 2 ปี ส่วนจำเลยที่ 3 ศาลยกฟ้อง

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 กันยายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...