วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน 2567
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
องคมนตรีเยี่ยมชมโครงการต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ“สระบุรีแซนด์บ็อกซ์”
12 ก.ย. 2567
วันพุธที่ 11 กันยายน 2567 เวลา 08.30 ถึง 15.00น. นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยนางสาวกาญจน์ชนิษฐา เอกแสงศรี ท้องถิ่นจังหวัดสระบุรี นายปริญญา คุ้มสระพรม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสระบุรี นายสุขุมวิท สุขพันธ์ถาวร เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสระบุรี นายธีระพงษ์ วิมลจิตรานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 7 นายมนตรี ปรีดา นายอำเภอแก่งคอย ให้การต้อนรับศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ประธานคณะกรรมการกิจการสังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เอสซีจี รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กรหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ ดร.ชนะ ภูมี นายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย คณะกรรมการกิจการสังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน นายเจริญชัย เฉลียวเกรียงไกร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี นายภานุวัฒน์ คำใสย
เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี นายยุทธนา เจียมตระการ
กรรมการมูลนิธิเอสซีจี เยี่ยมชมโครงการต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ“สระบุรีแซนด์บ็อกซ์”จังหวัดสระบุรี โดยจุดที่ 1 เยี่ยมชมการดำเนินงานการปลูกหญ้าเนเปียร์ พลังงานสะอาด สร้างรายได้แก่ชุมชน ศูนย์เรียนรู้พืชพลังงานบ้านหัวเขา ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย รับฟังการบรรยายภาพรวมโครงการสระบุรีแซนด์บ็อกซ์และชมแปลงปลูกและสาธิตการตัดหญ้าเนเปียร์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย รับฟังการบรรยาการส่งเสริมการปลูกพืชพลังงาน หญ้าเนเปียร์ พลังงานสะอาดสร้างรายได้แก่ชุมชน โดยเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กรหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่และนายสมาน แก่นพุทธา หัวหน้ากลุ่มวิสาหกิจพืชพลังงานบ้านหัวเขา
จุดที่ 2 เยี่ยมชมการดำเนินโครงการรักษ์ภูผา มหานที สู่การดูแลป่าชุมชนและพลังชุมชน โรงเรียนวัดพระพุทธบาทน้อย ตำบลสองคอน อำเภอแก่งคอย โดยสักการะพระพุทธบาทน้อย รับฟังประวัติพระพุทธบาทน้อย รับฟังการบรรยายโครงการป่าชุมชนสระบุรี การดูแลป่า การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติต่อยอดสู่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยประธานเครือข่ายป่าชุมชน สระบุรี และร่วมปลูกต้นไม้ต้นรวงผึ้งบริเวณโรงเรียนวัดพระพุทธบาทน้อย
จุดที่ 3 เยี่ยมชมหอมนสิการ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมซึ่งเทิดพระเกียรติแสดงความนอบน้อมกตัญญู ถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานพระบรมโลกนาถ พระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จมาในต่างวาระรวม 23 พระองค์ และภาพปักพระบรมโลกนาถและเป็นสถานที่สำหรับฝึกสมาธิเบื้องต้น และเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา
จุดที่ 4 เยี่ยมชมการจัดการขยะสร้างคุณค่าเพิ่มRegenerative Waste ศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีจัดการขยะชุมชนตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย รับฟังการบรรยายโครงการตาลเดี่ยวโมเดล จัดการขยะสู่พลังงาน สร้างรายได้เพื่อความยั่งยืนของชุมชน โดย ดร.เรวดี อนุวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญวิจัย กลุ่มวิจัยและพัฒนาด้านพัฒนาอย่างยั่งยืนสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย(วว.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.)
“SARABURI SANDBOX”
เป็น 1 ใน 4 แนวทางที่รัฐบาลได้นำเสนอในเวทีการประชุม COP28 เพื่อแสดงความมุ่งมั่นของประเทศไทย ตามเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ร้อยละ 40 ภายในปีค.ศ. 2030 (พ.ศ. 2573) มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) และเป้าหมายการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี ค.ศ. 2065 (พ.ศ. 2608) โดยการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน Public-Pivate - People Partnership (PPP) เพื่อขับเคลื่อนต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย โดยการรวบรวมปัญหา ข้อจำกัด เพื่อร่วมแก้ไข ถอดบทเรียนขยายผลสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ผ่านการขับเคลื่อนการดำเนินการใน 5 ประเด็นหลัก ได้แก่
1) การเปลี่ยนผ่าน สู่พลังงานสะอาด
2) อุตสาหกรรมสีเขียว
3) การบริหารจัดการของเสีย
4) เกษตรคาร์บอนต่ำ และ
5) การเพิ่มพื้นที่สีเขียว
ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา จังหวัดสระบุรีได้บูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินโครงการ SARABURI SANDBOX ภายใต้กรอบแนวทางการดำเนินงานแผนงาน/โครงการ เพื่อให้จังหวัดสระบุรีเป็นส่วนหนึ่งในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ของประเทศบรรลุเป้าหมายตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น และเป็นต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย ดังนั้น จังหวัดสระบุรีจะบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 5 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซต์ ภายในปี พ.ศ. 2570 ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและทุกระดับต่อไป
สมพงษ์ ปานรุ่ง สระบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
