ที่ อบต.ป่าสะแก อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวง พม. โดยมีนายณัฐภัทร สุวรรณประทีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายอำเภอเดิมบางนางบวช หัวหน้าส่วนราชการ นายก อบต.ป่าสะแก เจ้าหน้าที่พนักงาน ให้การต้อนรับ และร่วมกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์"ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567" ณ ที่ทำการ องค์การบริหารส่วนตำบลป่าสะแก อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี
โดย นายวราวุธ ศิลปอาชารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้แจกต้นไม้ให้กับผู้นำชุมชนและชาวบ้านนำไปปลูกในพื้นที่ชุมชนป่าสะแกด้วย จากนั้นได้ร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการจัดกิจกรรม จิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์ "ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567" ในครั้งนี้
จากนั้นนายวราวุธ ศิลปอาชารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกาลพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยังเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมและสนับสนุน กิจกรรมพัฒนาองค์ความรู้สร้างเศรษฐกิจเข้มแข็งของชุมชน และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนระหว่าง สำนักงานธนานุเคราะห์ กับ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) ณ องค์การบริหารส่วนตำบลป่าสะแก จ.สุพรรณบุรี
นายวราวุธ ศิลปอาชารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกาลพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า วันนี้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสำนักงานธนานุเคราะห์ ต้องขอขอบทางสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ และองค์การบรอหารส่วนตำบลป่าสะแกที่ได้เป็นเจ้าภาพ วันนี้ 2 หน่วยงานของเรา สำนักงานธนานุเคราะห์และทางเบโด้นั้น ได้มาลงนาม MOU เพื่อมาพัฒนาเศรษฐกิจให้มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ทำให้พี่น้องประชาชนได้ตระหนักถึงหลักการเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน หรือเศรษฐกิจสีเขียว รวมไปถึงการปลูกต้นไม้ และให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่นั้นได้ดูแล ว่าจ้างประชาชนในพื้นที่ดูแล
ซึ่งจะทำให้พี่น้องประชาชนจะมีรายได้จากการดูแลต้นไม้ และจะได้ประโยชน์จากการปลูกต้นไม้ด้วย และที่สำคัญทางธนานุเคราะห์ก็จะให้ความรู้พี่น้องประชาชนเกี่ยวกับเรื่องการออม ทำให้ในอนาคตนั้น ในพื้นที่จะมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มมากขึ้น และในจณะเดียวกันพี่น้องประชาชนจะได้รับความรู้เกี่ยวกับการออม ทำให้เวลาสูงอายุขึ้นไปแล้วได้ไม่ลำบาก
ดังนั้นวันนี้ทั้ง 2 หน่วยงานได้ลงนามใน MOU ซึ่งต้องบอกว่าเป็นความร่วมมือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจริงๆ ยกตัวอย่างเช่นสถานการณ์น้ำท่วมทั่เกิดขึ้นทางภาคเหนือของประเทศไทย และภาคอีสานตอนบน จากการที่มีน้ำไหลหลากลงมามากมาย สะท้อนให้เห็นว่าการเพิ่มพื้นที่สีเขียว การให้พี่น้องประชาชนได้เข้าใจถึงหลักการของ BCG มีความสำคัญเช่นไร การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในตำบลป่าสะแก จังหวัดสุพรรณบุรี และได้มีการออม ให้พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์จากการทำโครงการนี้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนั้นในนามของกระทรวง พม. ต้องขอเป็นกำลังใจให้กับทางองค์การบริการส้วนตำบลป่าสะแก และพี่น้องประชาชน และต้องขอบคุณทั้ง 2 หน่วยงาน สำนักงานธนานุเคราะห์ และสำนักงาน พัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ ที่ได้มาลงนาม MOU กันมาในวันนี้ ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นการต่อยอดและความาำเร็จออกมาในรูปแบบของความอยู่ดีกินดีขึ้นของประชาชนในพื้นที่
ส่วนการกำหนดเป้าหมายนั้นเบื้องต้นเป็นการลงนามในข้อตกลงก่อน ส่วนรายละเอียดนั้นคงต้องให้ทั้ง 2 หน่วยงาน หารือกับทางเจ้าภาพในพื้นที่กับทางองค์การบริหารส่วนตำบลป่าสะแก ว่าจะกำหนดพื้นที่เพิ่มเติมได้อย่าไง พี่น้องประชาชนทั้งหมดกี่ครอบครัว จะมาดูแล และจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่จะต้องดูแลต้นไม้ต่างเหล่านั้น และมีรายได้จากการทำงานดูแลต้นไม้ ในรายละเอียดต้องให้ 2 หน่วยงานพูดคุยกันเพิ่มเติมอีก ครั้ง
//////////////
สันติ ชูเชิด สุพรรณบุรี