ผู้สื่อข่าวรายว่า มีตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกภาคอีสานได้เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดขอนแก่นเพื่อยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าฯขอนแก่นเพื่อคัดค้านและเสนอให้มีการปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ความปลอดภัยทางชีวภาพหรือการเปิดเสรีพืชดัดแปลงพันธุกรรม (GMOs)ทั้งนี้ เพื่อต้องการหยุดยั้งการนำร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ซึ่งยังคงมีความบกพร่องอย่างร้ายแรง อันจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร วิถีชีวิตเกษตรกร ทำลายความหลากหลายทางชีวภาพ และจะทำลายเศรษฐกิจการส่งออกผลผลิตการเกษตรและผลิตภัณฑ์ทางอาหารอย่างไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ โดยการยื่นหนังสือครั้งนี้มี นายสัมภาษณ์ ศรีหงส์ ป้องกันจังหวัดขอนแก่นลงรับหนังสือแทนผู้ว่าฯขอนแก่น
ข่าวแจ้งว่า ก่อนยื่นหนังสือ นายถนัด แสงทอง ผู้ประสานงานเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกภาคอีสาน ได้อ่านแถลงการณ์แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว พร้อมกับแสดงข้อกังวลต่อร่าง พ.ร.บ.ความปลอดภัยทางชีวภาพ โดยมองว่าเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.ฯ มีเจตนาเพื่อเปิดเสรีพืชดัดแปลงพันธุกรรม (GMOs) โดยไม่ได้นำหลักการที่ว่าด้วยความปลอดภัยไว้ก่อน ในอนุสัญญาระหว่างประเทศที่ไทยเป็นภาคีมาปรับใช้ในการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการบริโภคพืชจีเอ็มโอ เช่น ปกป้องทรัพยากรชีวภาพ รวมทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญ เป็นการเปิดช่องให้บริษัทเมล็ดพันธุ์สามารถปลูกพืชดัดแปลงพันธุกรรมได้อย่างเสรีและไม่ต้องรับผิดชอบเมื่อเกิดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากพืชจีเอ็มโอ ซ้ำยังจะทำให้ความหลากหลายทางชีวภาพของแผ่นดินไทยตกอยู่ในการผูกขาดของอุตสาหกรรมเกษตรยักษ์ใหญ่ เกษตรกรไม่สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกในฤดูกาลถัดไปได้ ต้องซื้อใหม่ทุกรอบการผลิต ฯลฯ
นายถนัด กล่าวว่า ดังนั้น ทางเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกฯ จึงมีข้อเสนอให้หยุดการนำร่าง พ.ร.บ.ความปลอดภัยทางชีวภาพนี้เข้าสู่การพิจารณาของ สนช. จากนั้นมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำร่าง พ.ร.บ.นี้ไปจัดรับฟังความคิดเห็นของเกษตรกรรายย่อย ภาคประชาสังคม นักวิชาการอิสระ และภาคธุรกิจที่อาจได้รับผลกระทบเพื่อปรับปรุงร่างกฎหมายฉบับนี้ให้ดีขึ้น โดยนำหลักการป้องกันไว้ก่อน การป้องกันผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม การชดเชยและเยียวยาความเสียหายตามหลักผู้ก่อมลภาวะเป็นผู้จ่าย รวมไปถึงการป้องกันปัญหาการปนเปื้อน ซึ่งจะกระทบต่อการทำเกษตรกรรมอินทรีย์และทรัพยากรชีวภาพของชาติโดยภาพรวม ตลอดจนการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายมาบรรจุในกฎหมายฉบับนี้
ทั้งนี้ สิ่งที่น่าวิตกไปกว่านั้น คือ การอนุญาตให้มีการทดลองพืชจีเอ็มโอในพื้นที่เปิดและการปลูกพืชจีเอ็มโอเชิงพาณิชย์ มีโอกาสจะสร้างผลกระทบต่อเกษตรกรรายย่อย เกษตรอินทรีย์ ส่งผลกระทบต่อการส่งออกและผลกระทบต่อความมั่นคงและอธิปไตยทางอาหารของประเทศ ดังที่ประเทศในสหภาพยุโรปมากกว่า 16 ประเทศประกาศแบน และผู้บริโภคส่วนใหญ่ทั้งในยุโรปและมากกว่าครึ่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาต่างปฏิเสธอาหารที่มาจากการดัดแปลงพันธุกรรม