บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC เปิดบ้านต้อนรับสื่อมวลชน เยื่ยมชมโรงกลั่นน้ำมันในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด หลังซื้อกิจการสถานีบริการน้ำมัน คาลเท็กซ์ เมื่อต้นปี 2567 ระบุช่วยเพิ่มโอกาสธุรกิจให้ SPRC ครบห่วงโซ่ ทั้งการกลั่นน้ำมันและจำหน่ายผ่านปั๊มคาลเท็กซ์ที่มีอยู่ 528 สถานี คาดอีก 5 ปีข้างหน้าเพิ่มเป็น 800 สถานีได้ พร้อมเผยการดำเนินธุรกิจกว่า 32 ปีที่ผ่านมาในไทย เติบได้ด้วยวิสัยทัศน์ “ครอบครัวแห่งความห่วงใย ร่วมสร้างพลังเพื่อขับเคลื่อนอนาคตของเรา” เดินหน้าพัฒนาองค์กรสู่ผู้นำอุตสาหกรรมพลังงานในภูมิภาคเอเชีย
นางสาวเชาวศรี เหลืองรัตนากร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายกลยุทธ์ นโยบาย และพัฒนาธุรกิจบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) กล่าวว่า กว่า 32 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ดำเนินกลยุทธ์เพื่อการเติบโตเคียงคู่ไปกับประเทศไทย ได้ดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันที่มีหน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน (complex crude oil refinery) ซึ่งถือว่าเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
โดยธุรกิจหลักยังคงเป็นการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ซึ่งปัจจุบัน SPRC มีกำลังการผลิตทั้งสิ้น 175,000 บาร์เรลต่อวัน ควบคู่กับการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมคุณภาพสูงหลากหลายประเภท สำหรับใช้ภายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของ SPRC มีหลากหลายชนิด อาทิ โพรพิลีนเกรดโพลีเมอร์ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันเตา และยางมะตอย เป็นต้น
ทั้งนี้เมื่อต้นปี 2567 นี้ SPRC ได้เข้าซื้อธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงของบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ภายใต้แบรนด์ “คาลเท็กซ์” ซึ่งดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 75 ปี การเข้าซื้อกิจการดังกล่าว ช่วยเสริมสร้างโอกาสการเติบโตให้ SPRC อย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกับการขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์ด้านห่วงโซ่ และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น รวมทั้งช่วยสร้างความมั่นคงพลังงานในประเทศและระดับภูมิภาคเอเชีย
อย่างไรก็ตามการที่ SPRC ดำเนินธุรกิจมาได้อย่างมั่นคงกว่า 32 ปี เนื่องมาจากการให้ความสำคัญด้านการดูแลพนักงาน คู่ค้า ลูกค้า ชุมชน และพันธมิตรทางธุรกิจ ผ่านแผนระยะยาว 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ การเพิ่มศักยภาพของบุคลากรภายในองค์กร, ประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ, การศึกษาโอกาสในการลงทุนเพื่อการเติบโตทางธุรกิจ และวัฒนธรรมองค์กร โดยยังคงเน้นการดำเนินงานอย่างปลอดภัย เชื่อถือได้ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งยังมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) รวมถึงการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น โดย SPRC ได้มีส่วนร่วมในโครงการ “Foster Future Forests” เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในจังหวัดระยอง ปัจจัยดังกล่าวช่วยให้ SPRC ขับเคลื่อนองค์กรตามวิสัยทัศน์ “ครอบครัวแห่งความห่วงใย ร่วมสร้างพลังเพื่อขับเคลื่อนอนาคตของเรา”
สำหรับปัจจุบันสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ มีทั้งสิ้น 528 สาขา มีส่วนแบ่งการตลาดติด 1 ใน 5 ของตลาดธุรกิจน้ำมันในไทย โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มยอดขายน้ำมันเพิ่มขึ้น 10% ในปี 2568 และ SPRC ยังคงมองหาโอกาสขยายสถานีบริการเพิ่มทุกปี คาดว่าอีก 5 ปีจากนี้จะมีสถานีคาลเท็กซ์เพิ่มเป็น 800 สถานี
ทั้งนี้การซื้อกิจการสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ ได้เข้ามาช่วยส่งเสริมธุรกิจ SPRC ที่แต่เดิมเป็นเพียงผู้กลั่นน้ำมันออกจำหน่าย ซึ่งบางครั้งอาจไม่สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำมันในประเทศอย่างแท้จริง ดังนั้นเมื่อมีสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์มาอยู่ห่วงโซ่ธุรกิจ นอกจากจะช่วยให้ทราบข้อมูลชัดเจนในด้านความต้องการใช้น้ำมันของประชาชนแล้ว ยังเป็นช่องทางให้ SPRC ได้จำหน่ายน้ำมันถึงมือประชาชนโดยตรงด้วย