ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
ผอ.เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลพบุรี ชี้แจงบริหารจัดการน้ำมั่นใจการระบายน้ำไม่กระทบประชาชนจังหวัดท้ายเขื่อนป่าสักฯ รวมถึงกรุงเทพมหานคร เขื่อนป่าสักฯ ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 300 ล้านลูกบาศก์เมตร สิ้น
07 ต.ค. 2567
วันที่ 7 ต.ค. 2567  นายชูพงศ์ อิศรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุง รักษาป่าสักชลสิทธิ์  เปิดเผยว่า จากการประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ที่พยากรณ์ไว้ว่าฝนจะเริ่มเบาบางลงในวันที่ 4 - 5 และ 6 กันยายน 2567 ซึ่งปัจจุบันนี้แม่น้ำป่าสัก ช่วง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ก็ยังถือว่ามีปริมาณน้ำค่อนข้างสูงซึ่งอยู่เหนือเขื่อนป่าสักฯ โดยน้ำเหล่านี้ก็จะไหลเข้าสู่เขื่อนป่าสักฯ   ในขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักฯ มีความจุอยู่ประมาณ 600 กว่าล้าน ลูกบาศก์เมตร ยังสามารถรับได้อีกอยู่ประมาณ 300 กว่าล้าน ลูกบาศก์เมตร  คิดขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักฯ คิดเป็นประมาณ 67% ความจุของอ่างที่สามารถเก็บกักได้ 960 ล้านลูกบาศก์เมตรของเขื่อน
       ในส่วนของการระบายน้ำปัจจุบัน ทางเขื่อนป่าสักฯ รับน้ำด้านเหนือไหลเข้าอ่าง ตกวันละ 40 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และระบายออกอยู่ที่ 30 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน คิดเป็นระบายออกไป 30 ล้านลูกบาศก์เมตร เก็บไว้ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร  สำหรับในวันที่ 4 จากการคาดการณ์ภูมิอากาศปริมาณน้ำฝนอาจจะลดลงเนื่องจากความกดอากาศที่แผ่ลงมาจากประเทศจีน  จะทำให้ฝนลดน้อยลง ตั้งแต่วันที่ 4 - 5 และ 6 เป็นต้น   ซึ่งในลักษณะเช่นนี้เราก็จะลดการระบายเพื่อให้สอดคล้องกับน้ำที่อยู่ด้านเหนือ ที่จะเข้าเขื่อน โดยจะเริ่มลดการระบายตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน จาก 350 เหลือ 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ในวันที่ 5 กันยายน ลดจาก 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  เหลือ 250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และในวันที่ 6 กันยายน เหลือระบาย 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ตามลำดับ เพื่อให้สอดคล้องกับน้ำที่เรายังคงมีช่องว่างเหลืออยู่ ก็คาดว่าสิ้นสุดฤดูฝน ในวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ตามปฏิทินของกรมชลประทานก็จะสามารถเก็บกักน้ำได้ประมาณ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร  หรือมีน้ำเต็ม 100% ความจุของเขื่อน  
         ซึ่งในปีนี้การบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งเราจะมีน้ำให้เกษตรกรในด้านอุปโภค บริโภค และในเรื่องของการผลักดันน้ำเค็ม การรักษาระบบนิเวศ  การอุตสาหกรรม ตลอดจนการเพาะปลูกด้านการเกษตรต่างๆ ในตลอดช่วงตลอดฤดูแล้งเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา

         ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังเราต้องติดตามสภาวะภูมิอากาศเป็นหลักก็คือน้ำที่อยู่บนฟ้าซึ่งไม่มีความแน่นอน จะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศค่อนข้างมาก จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา เราก็จะต้องติดตามทุกวัน  ในส่วนของพายุที่จะเกิดหรือไม่เกิดนั้น เราก็ไม่นิ่งนอนใจในส่วนของเขื่อนป่าสักก็จะติดตามทั้งน้ำบนฟ้า และน้ำที่ลงมาเป็นน้ำท่าจากสถานีวัดน้ำต่าง ๆ ตั้งแต่ อำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์  มาจนถึงเขื่อนป่าสักฯ เราจะมีสถานีวัดน้ำติดตามสถานการณ์น้ำตลอดเส้นทาง เพื่อที่จะวางแผนการจัดการน้ำได้เป็นรายสัปดาห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น จึงขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด 
          แต่อย่างไรก็ตาม หากอาจต้องมีการระบายน้ำเพิ่มเติมด้านท้ายเขื่อนเพื่อให้การเก็บกักน้ำหน่วงน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพจะดำเนินการระบายตามแผนในปริมาณที่เหมาะสมไม่ให้น้ำล้นตลิ่ง และจะแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนก่อนการระบายน้ำทุกครั้ง  ตลอดจนไปถึงพี่น้องที่อยู่อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้านท้ายเขื่อนพระราม 6 ก็จะได้รับการแจ้งเตือน ก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน โดยน้ำจากเขื่อนป่าสักฯ จะไปถึง พระราม 6 ที่อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็จะใช้เวลาเดินทาง 1 วัน ทั้งนี้คาดว่าถ้าไม่มีพายุฝนก็จะสามารถที่จะผ่านฤดูฝนในปีนี้ไปได้โดยที่ไม่ทำให้เกิดผลกระทบทั้งพี่น้องประชาชนคนลพบุรี คนสระบุรี ตลอดจนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และกรุงเทพมหานครอีกด้วย 
หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 ตุลาคม 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...