ขาดแคลนมะพร้าว ส่งผลให้ราคามะพร้าวและน้ำกะทิพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากปัญหาภัยแล้งที่ผ่านมา พ่อค้าแม่ค้า ขายน้ำกะทิ ภายในตลาดสดมหาราช เทศบาลเมืองกระบี่ ต้องแย่งกันซื้อมะพร้าว บางร้านต้องหยุดขายเพราะหามะพร้าวไม่พอใช้ ราคามะพร้าวผลเล็กจากเดิมลูกละ 10-15 บาท ขึ้นเป็นลูกละ 30-35 บาท ขณะที่ราคา มะพร้าวขูด กิโลกรัมละ 100 บาท น้ำกะทิ เฉพาะหัวกะทิ จาก ราคา กก.ละ 60-65 บาท พุ่งสูงถึงกก.ละ 150-160 บาท และมีแนวโน้มขาดแคลนต่อเนื่องไปจนถึงกลางปีหน้า หลายร้านจำเป็นต้องปรับราคาขายเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
นายสมบัติ หิรัญกิจรังษี พ่อค้าขายน้ำกะทิมะพร้าวขูด เปิดเผยว่า สาเหตุที่ส่งผลให้มะพร้าวขาดตลาดเนื่องจาก ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จนถึงกลางปีนี้ ประปัญหาภัยแล้ง ทำให้มะพร้าวไม่ ออกดอก ติดผล และพื้นที่ปลูกมะพร้าวลดลง จากการเปลี่ยนเป็น พื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน ผลไม้ ทุเรียน เป็นจำนวนมาก และมีโรงงานผลิตน้ำกะทิมาเปิดในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้มีความต้องการมะพร้าวเพิ่มสูงขึ้น ส่วนผลมะพร้าว ที่หาซื้อมาได้ก็เป็นขนาดเล็ก ไม่แก่เต็มที่ ทำบีบเป็นน้ำกะทิได้น้อย กำไรลดลงหรือแทบจะไม่มีกำไร แต่ต้องเปิดร้านเพราะมีลูกค้าประจำ เมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติก็จะมีกำไรเพิ่มขึ้น ส่วนร้านขายข้าวแกง ได้มีการ หันไปใช้กะทิกล่องแทนในบางเมนู หรือลดเมนูอาหารที่ใช้น้ำกะทิเป็นหลัก เช่นแกง ต้ม กะทิ
กระบี่/0979188787