นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนเมษายน 2561 เป็นต้นไป ผลไม้ภาคตะวันออกจะออกสู่ตลาดแล้ว เพื่อเป็นการเตรียมการล่วงหน้า กรมการค้าภายในจึงได้จัดหาตลาดรองรับผลผลิตให้เกษตรกร โดยการจัดเจรจาเชื่อมโยงการซื้อขายผลไม้ระหว่างสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กับห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออกผลไม้ และโรงงานแปรรูปผลไม้ โดยมีเป้าหมาย 50,000 ตัน มูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท
สำหรับแผนการจัดหาตลาดรองรับให้เกษตรกรดังกล่าว ในวันที่ 9 มีนาคม 2561 ได้กำหนดให้มีการลงนามสัญญาข้อตกลงซื้อขายผลไม้ล่วงหน้าระหว่างสหกรณ์ส่งเสริมภาคธุรกิจการเกษตรจังหวัดตราด จำกัด กับ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด (ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต) โดยสินค้าที่ ท็อปส์ จะรับซื้อจากเกษตรกรเป็นผลไม้คัดเกรด อาทิ ทุเรียนชะนีเกาะช้าง มังคุด เงาะ ลองกอง เป็นต้น ในราคาที่เกษตรกรพึงพอใจ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตผลไม้ที่มีคุณภาพดีให้ผู้บริโภคได้รับประทาน
ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวกรมการค้าภายในได้ร่วมบูรณาการและได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน ได้แก่ จังหวัดตราด กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตราด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ที่ให้ความร่วมมือกับกรมการค้าภายใน ในการช่วยเหลือเกษตรกรมาโดยตลอด
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการจัดหาตลาดรองรับให้เกษตรกรล่วงหน้าดังกล่าวแล้ว กระทรวงพาณิชย์ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่จะดำเนินการ เช่น กิจกรรมส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคผลไม้ การประชาสัมพันธ์และรณรงค์การบริโภคผลไม้ไทย การจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าผลไม้ รวมทั้งส่งเสริมการขายผลไม้ในรูปแบบออนไลน์ด้วย ทั้งนี้ขอฝากพี่น้องประชาชนช่วยอุดหนุนผลไม้ไทย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้เกษตรกรผลิตผลไม้คุณภาพดีๆ ให้คนไทยและส่งออกไปต่างประเทศมากยิ่งขึ้น
าร์เก็ต