ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
เซ้าเทิร์น กรุ๊ป ฉลองใหญ่55ปี มุ่งพัฒนา-รับผิดชอบสิ่งแวดล้อม
18 ต.ค. 2567

“เซ้าเทิร์น กรุ๊ป” ประกาศความสำเร็จธุรกิจของกลุ่มในรอบ 55 ปี ทั้งปาล์มน้ำมัน เหมืองแร่ โลจิสติกส์ เผยก้าวข้ามอุปสรรคและวิกฤตการณ์จนแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าเป็นกลุ่มธุรกิจชั้นนำที่สามารถรับมือความเปลี่ยนแปลงแต่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

          เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา บริษัทเซ้าเทิร์น กรุ๊ป จำกัด ซึ่งประกอบด้วย 3 ธุรกิจสำคัญ ได้แก่ ธุรกิจปาล์มน้ำมันและอุคสาหกรรมต่อเรือ ธุรกิจเหมืองแร่และท่าเรือ และธุรกิจโลจิสติกส์และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ได้จัดงานฉลองครบรอบ 55 ปี ที่โรงแรมสวิส โฮเต็ล รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ มีผู้มาร่วมงานจำนวนมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ ผู้บริหารระดับสูงจากญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเชีย ผู้บริหารจาก ปูนซีเมนต์ไทย ทิปโก้ แอสฟัลท์ ทักษิณ คอนกรีต เป็นต้น 

          นางพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานกล่าวแสดงความยินดีที่บริษัทในเครือเซ้าเทิร์น กรุ๊ปได้ประกอบกิจการด้านเหมืองแร่และท่าเรือประสบความสำเร็จ เจริญก้าวหน้ามาด้วยดี มีส่วนในการพัฒนาชุมชน ช่วยเหลือชาวบ้านในท้องถิ่นให้มีงานทำ มีรายได้ ในภาพรวมถือว่าเซ้าเทิร์น กรุ๊ปมีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจให้มีความเจริญรุ่งเรือง

          นายธนารักษ์ พงษ์เภตรา ประธานกรรมการ กลุ่มทักษิณ ปาล์ม ในเครือเซ้าเทิร์น กรุ๊ป กล่าวว่า จุดเริ่มต้นมาจากบริษัทโชคพนา (2512) จำกัด ไปทำโรงเรื่อยแปรรูปไม้หมอนรถไฟที่อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นก็บุกเบิกทำสวนปาล์มน้ำมัน  ทำโรงงานปาล์มน้ำมัน ขยายไปทำเหมืองแร่ยิปซั่ม ทำท่าเรือที่จังหวัดกระบี่ ทำโรงงานไม้เนื้อแข็ง ที่อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา  ตลอด 55 ปีของเซ้าเทิร์น กรุ๊ป เจริญเติบโตมาตามลำดับ  วิสัยทัศน์ที่จะต้องไปให้ถึงคือ เป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของกระแสโลก และการพัฒนาของโลกในอนาคต ซึ่งเราจะต้องปรับตัวตลอดเวลาพร้อมๆไปกับการแสวงหาสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ

          ดร.วิจักษ์ พงษ์เภตรา ประธานกรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจเหมืองแร่และท่าเรือ เซ้าเทิร์น กรุ๊ป และนายกสมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้างกล่าวว่า  กลุ่มธุรกิจเหมืองแร่ฯเป็นบริษัทชั้นนำด้านธุรกิจเหมืองแร่ในภูมิภาคเอเชียที่ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างและให้บริการขนส่งที่ลูกค้า ยอดขายแร่ชนิดต่างๆในประเทศปีละ 4 ล้านตัน  ส่งออกขายต่างประเทศไม่น้อยกว่า 2.5 ล้านตันต่อปี  กลุ่มลูกค้าที่รับซื้อเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์และยิมซั่มบอร์ด  ใช้หินก่อสร้างสำหรับโครงการก่อสร้างประเภทหินแกรนิต

          “รายได้จากยอดขายส่งออกต่างประเทศของกลุ่มเหมืองแร่คิดเป็นร้อยละ 60 ปริมาณ 2.5 ล้านตันต่อปี แร่ที่ส่งออก 5 ชนิด ได้แก่ แร่ยิบซั่ม แอนไฮโดรต์  หินปูน โดโลไมท์ และกลุ่มแกรนิต ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทชั้นนำในการผลิตเหล็กในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่มาเลเชีย สิงคโปร์ อินโดนีเชีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวันและญี่ปุ่น  ทางด้านคู่แข่งของเราก็มีความเข้มแข็งสูง เช่น ผู้ผลิตประเทศโอมาน ยูเออีและเวียดนาม  ขณะที่รายได้ยอดขายจากตลาดในประเทศร้อยละ 40 ประมาณมากกว่า 4 ล้านตันต่อปี”

          ดร.วิจักษ์ กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจเหมืองแร่ฯ ผ่านปัญหาและอุปสรรคที่ท้าทายมาก  เริ่มตั้งแต่ปี 2540 เกิดวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง  ต่อมาต้องเจอพ.ร.บ. แร่ฉบับใหม่ก็เข้มงวดมาก  ปี 2563 เผชิญกับวิกฤติโควิด-19 กลุ่มบริษัทก็ผ่านมาได้ด้วยดี  ต้องขอบคุณผู้สนับสนุนทุกฝ่ายทั้งหน่วยงานงาน บริษัทต่างๆในประเทศ ตลาดต่างประเทศ

          “วิสัยทัศน์หรือทิศทางในอนาคตของเซ้าเทิร์น กรุ๊ปนั้น  เราจะต้องสร้างองค์กรให้เป็นบริษัทชั้นนำในด้านเหมืองแร่และท่าเรือในภูมิภาคเอเชีย  ผลิตสินค้ามีคุณภาพ รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เน้นนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ทุกด้าน การใช้ปัญหาประดิษฐ์  คำนึงถึงเศรษฐกิจสีเขียว ต้องเตรียมความพร้อมของบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญ การทำงานเป็นทีม มีความซื่อสัตย์ มีน้ำใจ มุ่งมั่นในการทำงาน การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และร่วมกันแก้ไขปัญหาโลกร้อน”ดร.วิจักษ์กล่าว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...