นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากนโยบายของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ต้องการให้ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมมีบ้านเป็นของตนเอง จึงเกิดโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ กระทรวงการคลัง โดยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 67 นี้ ผู้ประกันตนมาตรา 33 39 และ 40 ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตน และจองคิวเพื่อรับสิทธิเข้าร่วมโครงการ ผ่านทางแอปพลิเคชัน SSO PLUS ได้ และให้นำเอกสารต่าง ๆ ตามที่ธนาคารกำหนดไปยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. ได้ภายในเวลาที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตน โดยจะเริ่มยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารได้ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.67 เป็นต้นไป
โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเข้าใจถึงภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกันตนในยุคปัจจุบัน ขณะเดียวหลายคนต้องการมีบ้านเป็นของตนเองและครอบครัว จึงหาวิธีช่วยลดภาระให้กับผู้ประกันตน ซึ่งโครงการนี้ผู้กู้จะได้รับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำในช่วง 5 ปีแรก เพียง 1.59% ต่อปี ส่วนปีที่ 6 – 8 เท่ากับ MRR – 2.00% ต่อปี และปีที่ 9 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR – 0.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบันเท่ากับ 6.545% ต่อปี) เพื่อซื้อหรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ภายใต้วงเงินกู้ตามโครงการสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท หากวงเงินกู้ส่วนที่เกิน 2 ล้านบาท สามารถใช้อัตราดอกเบี้ยผลิตภัณฑ์สินเชื่ออื่นของธนาคารได้ โดยสามารถยื่นขอสินเชื่อได้จนถึงวันที่ 30 ธ.ค.68 หรือเมื่อธนาคารให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินโครงการแล้ว
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมต.แรงงาน กล่าวว่าผู้ประกันตนมาตรา 33, 39, 40 ได้สิทธิการกู้ 1.ซื้อบ้าน 2.ซื้อที่ดินสร้างบ้าน หรือไปซ่อมบ้าน เชื่อว่าตรงนี้ก็จะเป็นการช่วยเหลือให้กับผู้ใช้แรงงานที่อยู่ในประกันสังคมตามมาตรา 33, 39, และ 40 ได้มีบ้านที่เป็นของตัวเอง และคุณสามารถผ่อนจ่ายเดือนหนึ่ง 4,000 บาทเท่านั้น เฟสแรก ถ้าหากมีผู้สนใจมากเมื่อหมดวงเงิน 10,000 ล้านบาทแล้ว ประกันสังคมก็จะนําเข้าบอร์ด เพื่อเสนอขอวงเงินเพิ่มซึ่งไม่ใช่ว่าสิ้นสุดแค่นําเงิน 10,000 ล้านเท่านั้น เมื่อใช้ครบใช้หมดเมื่อไหร่จะให้ทางประกันสังคม นําเข้าสู่บอร์ดอีกครั้งหนึ่งในการขอขยายวงเงินเพิ่มขึ้น โครงการนี้เราจะเริ่มโครงการในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 และไปสิ้นสุดคือวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2568