ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ย้อนกลับ
2 รองนายกเมืองพัทยารับเรื่องฯผู้ค้าตลาดเทพประสิทธิ์ถูกเอาเปรียบ
28 ต.ค. 2567

ที่ ศาลาว่าการเมืองพัทยา ผู้ค้าตลาดแห่งหนึ่งย่านเทพประสิทธิ์ จำนวนหนึ่ง นำโดย น.ส.จารุพร ชมวรลภย์ อายุ 41 ปี ได้รวมตัวเดินทางมาที่เมืองพัทยา เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม จากนายกเมืองพัทยา หลังถูกเจ้าของตลาดเอารัดเอาเปรียบ โดยมี นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายกฤษณะ บุญสวัสดิ์ รองนายกเมืองพัทยา เข้ารับฟังปัญหาความเดือนร้อนของผู้ค้าตลาดดังกล่าว ทั้งนี้ทางเมืองพัทยาได้ให้เจ้าหน้าที่นิติกร ดูแลงานคุ้มครองผู้บริโภคเมืองพัทยา (สคบ) รวมรับฟังปัญหาและชี้แจงแนวทางรายะเอียดขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาให้กับผู้ค้าและเจ้าของตลาด
     โดย น.ส.จารุพร ชมวรลภย์ อายุ 41 ปี หนึ่งในผู้ค้าตลาดแห่งหนึ่งย่านเทพประสิทธิ์ เปิดเผยว่า สำหรับการเดินทางมาที่เมืองพัทยาของผู้ค้านั้นด้วยต้องการมาเรียกร้องขอความเห็นใจหลังผู้ค้าในตลาดแห่งนี้ได้รับความเดือดร้อน โดยมีข้อเรียกร้องด้วยกัน 4 หัวข้อ คือ 1.ด้วยขณะนี้ตลาดมีการออกกฎมาสักระยะหนึ่งแล้ว หากผู้ค้าไม่มาขายสินค้าจะมีค่าปรับวันละ 1,000 บาท ซึ่งผู้ค้ามองว่าด้วยไม่ได้เป็นพนักงานบริษัทหากจะหยุดขายของจะต้องนำใบรับรองแพทย์ ใบมรณะบัตร และใบต่าง ๆที่มาชี้แจงเหตุผลสาเหตุที่หยุดให้กับตลาด เพื่อจะได้ไม่ถูกปรับ ทั้งที่ผู้ค้ามีการจ่ายค่าเช่าพื้นที่ไปแล้วเป็นสัปดาห์ ซึ่งหากไม่มีความจำเป็นจริงผู้ค้าก็คงไม่หยุดขายสินค้าอย่างแน่นอน จึงอยากได้รับความเห็นใจในเรื่องนี้ 2. ตลาดมีการเพิ่มวันขายจากเดิม 3 วันในการเปิดตลาด ศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ต่อสัปดาห์ มาเป็นเปิดตลอดสัปดาห์ ทั้งหากตลาดจะเปิดเพิ่มได้แต่ราคาค่าเช่าพื้นที่ในตลอด 7 วัน เท่า ๆกัน หรือใกล้เคียงกันมากที่สุด 3.เดิมที่ตลาดเปิด 3 วัน แต่ปัจจุบันเปิดขาย 7 วัน ทำให้ผู้ค้าค้าขายไม่มี เนื่องจากเป็นตลาดนัดสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งไม่เหมือนตลาดสดที่คนจะมาเดินจับจ่ายซื้อสินค้าทุกวัน แต่หากตลาดยันการจะเปิด 7 วันจริงก็ขอให้พิจารณาเรื่องค่าเช่าเท่ากันทั้ง 7 วัน และ 4.หากทางตลาดยืนยันจะเปิด 7 วัน ผู้ค้ารับได้แต่ขอให้เพิ่มเป็นเพียงวันพฤหัสบดีอีก 1 วัน แต่ขอให้จัดแบบฟูล สตรีม ในโซนพื้นที่ A B C D เหมือนกับวันฟูล สตรีม ซึ่งปัญหาเหล่านี้ที่ผู้ค้าประสบอยากขอความเห็นใจและอยากเจรจาด้วยความยุติธรรมให้กับผู้ค้า
     ส่วนที่เดินทางมาพบนายกเมืองพัทยาในครั้งนี้ด้วยความเดือนร้อนนี้อยู่ในพื้นที่อำเภอบางละมุง ดังนั้นสิ่งแรกที่ประชาชนและผู้คานึกถึงคือนายกเมืองพัทยา เพื่อเป็นคนกลางเรียกผู้ค้าและเจ้าของตลาดมาเจรจากัน ไกล่เกลี่ย หาทางออกร่วมกันต่อไป  ซึ่งที่ผ่านมาทางผู้ค้าได้เข้าเจรจากับเจ้าของตลาดแล้ว 4 ครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล และทั้ง 4 ครั้งก็มาเคยได้เจรจากับเจ้าของตลาดโดยตรงมีเพียงส่งตัวแทนและผู้จัดการตลาดมาเจรจา ซึ่งก็ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจได้ และคำตอบทุกครั้งก็ไม่สามารถหาจุดกึ่งกลางได้เลย โดยผู้ค้าที่มาในครั้งเป็นเพียงผู้ค้าส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบและยังมีผู้ค้าอีกจำนวนมากที่ได้รับความเดือนร้อน
     ด้าน นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยา  ได้ให้สัมภาษณ์หลังเข้ารับฟังปัญหาจากผู้ค้า ว่า ด้วยมีผู้ค้าตลาดแห่งหนึ่งเข้ามาร้องเรียนว่าถูกเจ้าของตลาดเอารัดเอาเปรียบตามความรู้สึกของผู้ค้า จึงมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับเมืองพัทยา โดยได้ยื่นขอเสนอ 4 ข้อ ทั้งนี้ด้วยเมืองพัทยามีเจ้าหน้าที่ สคบ. ซึ่งอยู่ในฝ่ายกฎหมายจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ สคบ.มารับเรื่องราวร้องทุกข์กับผู้ค้า และให้ผู้ค้าทำเอกสารการร้อง ตามกระบวนการของกฎหมาย แล้วนำมายื่นที่สคบ.เมืองพัทยา ซึ่งหลังจากรับคำร้องจากผู้ค้าแล้วทางเจ้าหน้าที่สคบ.เมืองพัทยาจากนั้นจะส่งหนังสื่อไปหาเจ้าของตลาด เพื่อมาชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เมืองพัทยาพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งหากเจ้าของตลาดไม่มาชี้แจงตามหนังสือเรียกจะมีความผิดตามมาตรา 45 ของกฎหมายสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ผู้ใดขัดขวางหรือไม่อำนวยความสะดวก ไม่ให้ถ้อยคำ หรือไม่ส่งเอกสาร หรือหลักฐานแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติการมาตร 5 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 ตุลาคม 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...