วันนี้ 31 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 4 ได้กล่าวอภิปรายเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน ในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 2 ครั้งที่ 36 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เมื่อวันพุธที่ 30 ตุลาคม 2567 ว่า ร่างพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน ซึ่งเป็นพระราชบัญญัติที่ใช้อยู่ปัจจุบัน ตั้งแต่พ.ศ 2543 หรือใช้มากว่า 20 ปีมาแล้ว
การที่ ครม.และนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ร่างพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน ขึ้นมาใหม่ รวม 2 ฉบับ ซึ่งผมได้ดูแล้ว ผมถือว่าเป็นร่างที่ทำขึ้นมาเพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ที่อยู่ในหมู่บ้านจัดสรร เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลากฎหมายเดิมที่ใช้มาแล้ว 20 กว่าปี ผมเชื่อว่าไม่มีใครที่จะเปลี่ยนเราให้มันแย่ลง ผมเชื่อว่าเปลี่ยนแล้วมันจะเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมทั้งสิ้น
โดยเฉพาะในการเพิ่มองค์ประกอบของคณะกรรมการจัดสรรที่ดิน ซึ่งมีสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดเข้ามาร่วมด้วย ผมถือว่าเป็นการเล็งเห็นถึงด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเรื่องการบำรุงรักษาสาธารณูปโภคหรือการเก็บค่าธรรมเนียม รวมถึงผู้จัดสรรที่ฝ่าฝืนคำสั่งของคณะกรรมการต่างๆ ในภาพรวมแล้ว ผมเห็นด้วยเพราะผมเชื่อว่าเป็นประโยชน์กับผู้ที่อยู่อาศัยในหมู่บ้านจัดสรร
แต่สิ่งที่ผมกังวลใจที่สุดคือในประเทศไทยกติกาหรือกฎหมายระเบียบออกมาดีหมด ไม่มีใครออกกฎหมายหรือระเบียบไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน แต่มันมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องผู้ปฏิบัติ วันนี้มันมีข้อเท็จจริงอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี ที่ดินของรัฐที่ออกโฉนดเขาเรียกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ครอบครอง เช่นโฉนที่ดิน โฉนดแผนที่ โฉนดตราจองที่ ตราจองเอาไว้เพื่อการทำประโยชน์อันนี้เขาเรียกว่ากรรมสิทธิ์ของผู้ที่ครอบครอง
แต่สิทธิครอบครอง เช่น นส.3 นส.3 ก.นส.2 สิ่งที่ผมกล่าวมาทั้งหมดมันไปทำจัดสรรแบ่งประโยชน์ให้กับผู้ที่ถือครองได้ทั้งสิ้น แต่ที่จังหวัดกาญจนบุรีพื้นที่ส่วนใหญ่ นส.3 ที่ออกมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์แล้ว แต่วันนี้ นส.3 หรือ นส.3 ก.ที่ออก กลับแบ่งแยกไม่ได้ แล้วรัฐบาลได้พยายามที่จะสนับสนุนให้มีการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ซึ่งที่ดินมันเป็นรากฐานของเศรษฐกิจในการทำประโยชน์อะไรทั้งสิ้น แต่วันนี้จังหวัดกาญจนบุรีมีปัญหาเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว เพราะที่ดิน นส.3 รวมทั้ง นส.3 ก.แบ่งไม่ได้ เพราะที่ดินอ้างว่ากลัวว่าที่ดิน นส.3 ที่ออกมาให้ตั้งแต่อดีตกลัวว่าจะออกมาโดยมิชอบ แต่ถ้ากรมที่ดินบอกว่าออกมาโดยมิชอบ ท่านจะต้องเพิกถอน ท่านจะต้องสำรวจพร้อมกับแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้วเพิกถอนนออกให้หมด แต่วันนี้ท่านกลับปล่อยให้มันคาราคาซัง ปล่อยให้ประชาชนถือครองและแบ่งแยกไม่ได้ เช่นพ่อจะไปแบ่งแยกที่ดิน นส.3 จาก 10 ไร่แบ่งเป็น 5 ไร่ รวม 2 แปลง เพื่อยกให้กับลูก 2 คนก็ยังทำไม่ได้ เพราะมัวแต่กลัว
วันนี้ผมจึงอยากให้ท่านประธานรัฐสภา ฝากไปถึงผู้ที่ดูแล เกี่ยวกับเรื่องการออกโฉนดหรือการแบ่งแยกที่ดินเพื่อยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของทายาท ว่ามันเกิดอะไรขึ้นจึงทำไม่ได้ และผมเชื่อว่าจังหวัดอื่นก็มีเช่นเดียวกันกับจังหวัดกาญจนบุรี
ซึ่งถ้าเรายังยึดถือกับสิ่งที่ออกมาแล้วนั้นมันไม่ชอบด้วยกฎหมายท่านจะต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อช่วยเหลือประชาชน ไม่ใช่ปล่อยให้คาราคาซังเช่นนี้ ส่วนตัวผมไม่มีความกังวลอะไรกับพระราชบัญญัติที่ออกมาใหม่เพราะผมเชื่อว่าจะเกิดประโยชน์ และผมจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดของบ้านเมืองในประเทศไทยคือผู้ปฏิบัติ เพราะแต่ละพื้นที่ปฏิบัติไม่เหมือนกัน เนื่องจากยังมีการปล่อยปะละเลยและปล่อยให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่มีสิทธิ์แต่ไม่ได้สิทธิ์ที่ควรจะได้จากเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงอยากให้ท่านประธานฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยลงมาดูแลเรื่องนี้ด้วย เพราะทั้งหมดจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนโดยแท้จริง
.................................
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์