นายสืบพงศ์ ปราบใหญ่ เลขบัตรประจำตัวประชาชน 31104- 00910-130 อายุ 53 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 258บทบาทตำบล บางพึ่ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับโปรดเกล้าฯดำรงตำแหน่ง อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง มาพร้อมกับ อดีตรักษาการอธิการบดีมหา วิทยาลัยรามคำแหง ดร.บุญชาล ขาลประยูร ได้มาพบพนักงานสอบสวน กก 1 ป.แจ้งว่าฯ ผู้แจ้งฯได้รับความเสียหายจากการให้สัมภาษณ์ของ นาย วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง จำเลยในคดีอาญา หมายเลขดำ อ.609 /2567 ของ ศาลอาญา ที่มีผู้แจ้งเป็นโจทก์ และ นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญ ทรัพย์ เป็นจำเลยที่ 1 กับพวกรวม 2 คนเป็นจำเลย ในความผิดฐาน " ร่วมกันฟ้องเท็จและเบิกความเท็จต่อศาลแขวงพระนคร เหนือ " ซึ่งศาลอาญาได้มีคำสั่งประทับรับฟ้องและนัดสอบคำให้การจำเลยแล้ว และมีกำหนดสืบพยานโจทก์และจำเลยต่อเนื่อง ในวันที่ 13-14-15 สิงหาคม 2568 ที่จะถึงนีั (ดังปรากฏในสารบบความของศาลอาญา) โดย นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ จำเลยในคดีดังกล่าวข้างต้น มีเจตนาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ใส่ความผู้แจ้งฯให้ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง โดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้แจ้งฯ ดังปรากฏเป็นข่าวว่า " รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง สั่งรื้อปม" สามารถ "ส่งคนสอบแทน หลักสูตรปริญญาเอก เตรียมนำเรื่องเข้าที่ประชุมผู้บริหารวันพุธหน้า (6 พ.ย.)หากผิดจริง โทษสูงสุดไล่ออกสิ้นสภาพนักศึกษา " ( โดยมีเนื้อหารายละเอียดปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์ ดังแนบ ) กรณี นาย สามารถ เจนชัยจิตรวานิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะนักศึกษาปริญญาเอก คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง โดนร้องเรียนว่า ส่งคนไปเรียนและเข้าสอบแทนในวิชาภาษาอังกฤษ เมื่อวันที่ 6-7 มี.ค. 64 และทางม.รามคำแหง สั่งยุติผลการสอบสวนในสมัย นาย สืบพงษ์ ปราบใหญ่ เป็นอธิการบดี ล่าสุด ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า จริงๆแล้ว กรณีนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตนเป็นอธิการบดี หลังทราบเรื่องจากสถาบันภาษาว่ามีการร้องเรียนเรื่องนี้เข้ามาได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้น สรุปผลสอบว่า มีมูล มีการส่งนายตำรวจยศ พ.ต.ท.มาเข้าเรียนและเข้าสอบในหลักสูตรภาษาอังกฤษ ระดับ ปริญญาเอก แทนจริง หลังตนพ้นจากตำแหน่งอธิการบดีไปก็มี อธิการบดีคนใหม่เข้ามาสอบเรื่องนี้ต่อและสั่งให้
-2-
ยุติ ผลการสอบสวน ซึ่งตนยังไม่ทราบเหตุผล ในการสั่งยุติ ล่าสุดเมื่อได้ยินข่าวเรื่องนี้ก็ไม่สบายใจ ได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายของมหาวิทยาลัย รื้อสำนวนและหลักฐานต่างๆขึ้นมาดูใหม่ และจะเร่งนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมผู้บริหารในวันพุธหน้า (6 พ.ย) เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป "
ซึ่งจากเนื้อหาและถ้อยคำการให้สัมภาษณ์ของ นาย วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเป็นจำเลยในคดีอาญาดังกล่าวข้างต้น มีเจตนาพิเศษในการใส่ความผู้แจ้งหรือโจทก์ต่อสื่อมวลชนให้ได้รับความเสียหาย ทั้งสิ้น " เนื่องจากผู้แจ้งไม่เคยสั่งยุติผลการสอบสวนในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งในทางกลับกัน กับเป็นการดำเนินการของ นายวุฒิศักดิ์ฯ ที่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเองและมีผลสรุปการสอบสวนวินัยของ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ฉบับลงวันที่ 22 มิถุนายน 2565 ลงนามโดยรองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนักศึกษา / ประธานกรรมการสอบวินัยนักศึกษา (ดังแนบ )
การกระทำของนายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ ที่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน อาทิ สำนักข่าวไทย (อ.ส.ม.ท.) องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย , โพสต์ทูเดย์, กรุงเทพฯ, และอื่นๆ นั้น จึงเป็นการร่วมกันใส่ความผู้แจ้งต่อบุคคลที่ 3 หรือประชาชน ที่ได้อ่านข่าวนี้ หรือได้ยินได้ฟังข่าวสารนี้ทำให้ผู้แจ้งถูกดูหมิ่น หรือเกลียดชังผู้แจ้ง ทำให้บุคคลที่ 3 หรือประชาชนย่อมเข้าใจว่า ผู้แจ้งเป็นคนไม่ดี สั่งยุติผลการสอบสวน นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช ในขณะที่ผู้แจ้งดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง อันเป็นเหตุให้ผู้แจ้งได้รับความเสียหายโดยเจตนา
ซึ่งผู้แจ้งประสงค์จะดำเนินคดีจนกว่าคดีจะถึงที่สุด และจะนำพฤติกรรมของนายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ จำเลยในคดีฟ้องเท็จและเบิกความเท็จไปยื่นต่อศาลอาญาในสัปดาห์หน้า โดยขอให้ศาลอาญาเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อมีให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
เหตุเกิดที่ ทุกแขวง ทุกเขต ในกรุงเทพ มหานคร และ ทุกตำบล ทุกอำเภอ จังหวัด ตลอดจน ในระบบคอมพิวเตอร์ทางสื่อสังคมออนไลน์ต่อเนื่องกันและเกี่ยวพันกัน