คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดงานประชุมสัมมนา 5G ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยในงาน หัวเว่ยและกสทช. ยังได้ร่วมกันสาธิตความเร็วของอุปกรณ์ที่รองรับ 5G ในระบบ C-Band (หรือช่วง 3.4-3.6 GHz) ด้วยการเชื่อมต่อแบบ air interface ตามมาตรฐาน 3GPP โดยสามารถส่งสัญญาณข้อมูลจากสถานีฐานไปยังสถานีลูกข่าย (Downlink) ได้ด้วยอัตราความเร็วสูงกว่า 3.15 กิกะบิทต่อวินาที (Gbps) ซึ่งถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญของการพัฒนา 5G ในประเทศไทย
พล.อ. สุกิจ ขมะสุนทร ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวในระหว่างเปิดการประชุมว่า การพัฒนา 5G มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศไทย ดังที่เราได้เห็นกันมาแล้วว่า 4G ได้ปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจและสังคมของไทยไปมากเพียงใดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พล.อ. สุกิจ ยังเชื่อว่า คนไทยจำเป็นจะต้องเตรียมตัวรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึงของเทคโนโลยี 5G ดังนั้น งานนี้จึงถือเป็นโอกาสอันดียิ่งสำหรับสังคมไทยที่จะได้เห็นภาพบางส่วนในอนาคตว่าโลกจะเป็นอย่างไรด้วยเทคโนโลยี 5G
“5G ไม่เพียงปรับเปลี่ยนการสื่อสารของผู้คน แต่ยังรวมไปถึงไลฟ์สไตล์ การร่วมมือกันในสังคม และโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศชาติ เรายินดีที่ได้เห็นว่าไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีโซลูชั่น 4G ที่ยอดเยี่ยม เรายังเชื่อว่าประเทศไทยจะเป็นผู้นำในยุคของ 5G และทุกฝ่ายก็จะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงสังคมไปสู่ 5G โดยมี 5G เป็นโครงสร้างพื้นฐานเชิงกลยุทธ์หนึ่งสำหรับการขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0” มร. อัน เจี้ยน ประธานบริหาร ฝ่ายขายโซลูชั่นและการตลาดไร้สายของหัวเว่ย กล่าว
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้กล่าวปาฐกถาในงาน “5จี เปลี่ยนโลก เปลี่ยนประเทศไทย” เพื่อสร้างองค์ความรู้ให้แก่สังคมไทยเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นจากเทคโนโลยี 5G ซึ่งอาจเริ่มใช้งานในปี 2563 เป็นต้นไป
“ ประเทศไทยได้เรียนรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งทางด้านสังคมและเศรษฐกิจจากการมาถึงของ 3G และ 4G ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประเทศไทยที่จะเรียนรู้และเตรียมพร้อมสำหรับเทคโนโลยี 5จี ที่กำลังจะมาถึง”
นายฐากร ยังได้กล่าวเตือน 10 อุตสาหกรรม เช่น ภาคการเงิน การผลิต การเกษตร หรือแม้แต่ภาครัฐเองถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจาก 5G พร้อมกับเรียกร้องให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเตรียมตัวให้พร้อมและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ในอนาคต ด้วยคุณสมบัติความเร็วเครือข่ายระดับอัลตร้าและมีความหน่วงต่ำ เครือข่าย 5G จะเร่งขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาบริการและแอพลิเคชั่นใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย โดยเทคโนโลยี 5G คาดว่าน่าจะเปิดใช้งานเชิงพาณิชย์ได้อย่างกว้างขวางในราวปี พ.ศ. 2563