นายพีระพงษ์ สายเชื้อ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังตรวจพื้นที่โครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. และประตูระบายน้ำ คลองลาดพร้าว คลองบางบัว คลองถนน คลองสอง และคลองบางซื่อ จากบริเวณเขื่อนเดิมอุโมงค์ยักษ์พระรามเก้า - รามคำแหงไปทางประตูระบายน้ำ คลองสองสายใต้ ความยาว 22 กิโลเมตร เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยขณะนี้กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการประกวดราคาและได้ผู้รับจ้างแล้ว คือ บริษัท ริเวอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ในวงเงิน 1,645 ล้านบาท และอยู่ระหว่างนำเสนอกระทรวงมหาดไทยพิจารณาให้ความเห็นชอบการจ้างเหมาและอนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพัน เนื่องจากเป็นวงเงินงบประมาณเกิน 1,000 ล้านบาท หากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้วจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ทันที คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณต้นปี 2559 ระยะเวลาในการก่อสร้าง 4 ปี
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า สำหรับการลงพื้นที่ในวันนี้เป็นการดูพื้นที่ตลอดแนวการก่อสร้างโครงการก่อสร้างเขื่อนฯ เนื่องจากมีบ้านเรือนประชาชนปลูกสร้างในที่สาธารณะซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมธนารักษ์ ตลอดแนว 2 ฝั่งคลอง ซึ่งรัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) หรือ พอช. จะดำเนินการสร้างที่อยู่อาศัยให้ประชาชน โดยขยับออกจากแนวคลองที่จะดำเนินการก่อสร้าง โดย พอช.จะบริหารจัดการให้ชาวบ้านจัดตั้งสหกรณ์ และเช่าพื้นที่จากกรมธนารักษ์ ซึ่งจากการลงพื้นที่ของสำนักงานเขตและสำนักพัฒนาสังคม กทม. พบว่าชาวบ้านไม่ได้กังวลเรื่องการขยับออกจากแนวคลอง ทุกคนยินดีหากจะเป็นประโยชน์กับสังคมโดยรวม เพียงแต่กังวลว่าหากย้ายออกไปแล้วจะมีที่อยู่หรือไม่ ซึ่งในเรื่องดังกล่าวจะเป็นหน้าที่ของ พอช. ที่จะต้องดำเนินการ
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า คลองลาดพร้าวเป็นคลองขุดตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งสมัยนั้นแนวคลองจะกว้างกว่านี้ คือ ประมาณ 60 เมตร แต่เวลาที่ผ่านมานับ 100 ปี ก็มีการบุกรุกมีการสไลด์ของดินลงมา ทำให้แนวคลองลดลง ซึ่งหากใช้แนวคลองเดิมสมัยโบราณ คลองจะสามารถระบายน้ำในย่านนี้และบรรเทาปัญหาน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ได้เกือบทั้งหมด แต่เมื่อไม่เป็นไปตามแนวโฉนดโบราณ เช่น จาก 60 เมตร เหลือ 25 - 38 เมตร ตามที่กำหนดตามความแคบกว้างของแนวคลองในปัจจุบัน ก็จะต้องหาแก้มลิงเพิ่มขึ้น โดยคำนวนไว้ว่าต้องหาแก้มลิงเพิ่มขึ้นประมาณ 8 แสนคิว คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ และสิ่งที่ต้องนำมาเสริมคือ เรื่องของการรับน้ำ การสูบน้ำ และอุโมงค์ ที่ต้องผลักน้ำออกจากคลองบางซื่อ เพื่อให้สามารถระบาบน้ำและแก้ไขปัญหาได้
สำหรับกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเรือตรวจพื้นที่โครงการก่อสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าวฯ (เรือช่างภาพ) ชนโขดหินใต้สะพานข้ามคลองจุดตัดถนนลาดพร้าว ส่งผลให้มีช่างภาพตกน้ำและได้รับบาดเจ็บนั้น กรุงเทพมหานครได้ติดตามอาการ ณ โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 ซึ่งทุกคนปลอดภัยและหมอให้กลับบ้านเรียบร้อยแล้ว โดยขอสรุปอาการ ดังนี้ 1.นายภูวณัฐ แสงงาม ช่างภาพของ Voice TV ได้รับบาดเจ็บขากระแทก บวมเล็กน้อย แต่ไม่ได้ตกน้ำ หมอให้เข้าเฝือกอ่อนและให้กลับไปพัก พร้อมนัดให้กลับมาหาหมอเพื่อติดตามอาการอีกครั้ง ในวันเสาร์ที่ 19 ธ.ค.58 2. นายอนุสรณ์ ทองเหลือ ช่างภาพไทยรัฐทีวี เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บมีแผลฟกช้ำเล็กน้อย แต่เนื่องจากตกน้ำหมอได้เอ็กซเรย์แล้ว และให้รอติดตามอาการ พร้อมนัดตรวจอีกครั้งวันที่ 15 ธ.ค.58 ทั้ง 2 ราย เบื้องต้นกทม.ได้มอบเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล และจะติดตามอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป ในส่วนของ 3. นายยงยุทธ สระทอง ช่างภาพ TPBS จากการประสานเบื้องต้นไม่มีบาดแผล แต่เนื่องจากตกน้ำจึงต้องไปตรวจร่างกาย โดยจะไปพบแพทย์ในช่วงเย็นของวันนี้ (12 ธ.ค.58) ซึ่งกทม.ได้ประสานเพื่อให้ดูแลและช่วยเหลือแล้ว