นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฎ ประธานชมรมโรงสีข้าว จ.นครราชสีมา และเลขาธิการสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยว่า หลังกรมการข้าวร่วมกับสมาคมโรงสีข้าวไทยลงพื้นที่สำรวจผลผลิตข้าวเปลือกหอมมะลิช่วงเดือน พ.ย. 2560 ใน 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ 3 จังหวัดภาคเหนือ พบว่า ปีนี้ผลผลิตข้าวเปลือกหอมมะลิออกสู่ตลาดอยู่ที่ประมาณ 7.1 ล้านตัน ถือว่าน้อยกว่าตัวเลขที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เคยประมาณการไว้ที่ 9.9 ล้านตัน ทำให้ตลาดตื่นตัวและมีการปรับราคาข้าวเปลือกหอมมะลิเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเดิมปีที่แล้วเกษตรกรขายได้ราคาตันละไม่ถึง 10,000 บาท ปัจจุบันราคาอยู่ที่ตันละ 17,000 บาท
นอกจากนี้ ยังทำให้โรงสีข้าวบางแห่งที่ผลิตข้าวหอมมะลิเป็นหลัก ได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากไม่มีวัตถุดิบเพียงพอต่อความต้องการ ทำให้โรงสีต้องปรับไปสีข้าวเหนียวแทน อีกทั้งยังส่งผลต่อการส่งออก และปริมาณข้าวเพื่อการบริโภคภายในประเทศอีกด้วย
อีกทั้งภาพรวมของราคาข้าวยังปรับขึ้นทั้งตลาด โดยเฉพาะราคาข้าวหอมมะลิไทยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 6 ปี จากความต้องการในต่างประเทศ ในปีการผลิต 2560/61 ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิสูงถึง 16,500-17,500 บาทต่อตัน สูงสุดนับตั้งแต่ปีการผลิต 2554/55 ที่ 15,365 บาทต่อตัน
ด้านนายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย เปิดเผยว่า ความต้องการข้าวหอมมะลิที่เพิ่มขึ้น และผลผลิตที่ลดลง 1-2 ล้านตัน จากปัญหาน้ำท่วมและสภาพอากาศ ทำให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิปรับตัวสูง ถือเป็นผลดีกับเกษตรกร และการที่ราคาข้าวสารหอมมะลิปรับขึ้น 30% อยู่ที่กิโลกรัมละ 33-34 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 21-22 บาท จากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการทยอยปรับราคาขายข้าวแล้ว
ขณะที่นายสมเกียรติยังกล่าวถึงการปรับราคาจำหน่ายข้าวหอมมะลิว่า ไม่ได้แจ้งกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพราะข้าวไม่อยู่ในสินค้าควบคุม และการปรับราคายังอยู่ในเพดานที่เป็นราคาหน้าถุงเหมือนเดิม แต่การทำราคาโปรโมชั่นจะลดลงเท่านั้น พร้อมคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดข้าวถุงในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 25,000 ล้านบาท