ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า สนข. ได้สรุปผลการศึกษาโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนระบบรางเบา สายเหนือ-ใต้ ต้นแบบในเมืองภูมิภาคจังหวัดขอนแก่น ระยะทาง 26 กิโลเมตร เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยขั้นตอนหลังจากนี้อยู่ระหว่างจัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์เพื่อส่งให้จังหวัดดำเนินการต่อ
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ร่วมผลักดันโครงการดังกล่าว เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวดำเนินการโดยบริษัท ขอนแก่น ทรานซิท ซิสเต็ม จำกัด (เคเคทีเอส) ซึ่งมี 5 เทศบาลในขอนแก่นร่วมดำเนินการ ไม่ใช่บริษัทเอกชนโดยขั้นตอนหลังจาก สนข. สรุปผลการศึกษาอย่างเป็นทางการแล้ว กระทรวงมหาดไทย จะทำหนังสือแสดงเจตจำนงไปที่กระทรวงคมนาคมเพื่อให้ท้องถิ่น คือ เทศบาล เป็นดำเนินโครงการดังกล่าวเอง
“คาดว่าไม่เกิน 1 เดือน หรือภายในเดือนเม.ย. กระทรวงมหาดไทยจะส่งเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมได้ จากนั้น จ.ขอนแก่น จะต้องทำตามขั้นตอนรายละเอียดโครงการอีกประมาณ 60 วัน ก่อนที่จะเดินหน้าโครงการ”นายสุรเดช กล่าว
นายสุรเดช กล่าวว่า เคเคทีเอสได้จัดทำเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) เสร็จแล้ว ขณะนี้เปิดประกวดราคาหาผู้ร่วมทุนไปแล้ว โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาคัดเลือกผู้ชนะการประมูล แต่เดินหน้าไม่ได้ เพราะต้องรอผลการศึกษาของ สนข.ก่อน ซึ่งขณะนี้ ผลการศึกษาของ สนข. แล้วเสร็จ ดังนั้นจะต้องนำผลการศึกษาไปประกอบกับทีโออาร์เพิ่มเติม เพื่อให้สามารถเดินหน้าขั้นตอนการพิจารณาคัดเลือกต่อได้ คาดว่าจะสามารถ เริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2561 นี้
สำหรับรายละเอียดการร่วมทุนในทีโออาร์เบื้องต้นเคเคทีเอสกำหนดให้ ผู้เข้าร่วมลงทุนต้องมีธนาคารที่พร้อมจะปล่อยเงินกู้ให้กับกับเคเคทีเอส เพื่อดำเนินโครงการ โดยเคเคทีเอสจะต้องไม่มีภาระในการค้ำประกันตามเงื่อนไขที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้นโยบายไว้ คือ เคเคทีเอส ห้ามค้ำประกันและทางผู้ร่วมลงทุนต้องพร้อมจะเอาเงินมาลงทุนทำโครงการ ซึ่งเบื้องต้นมีผู้สนใจแล้ว 2 ราย
“โครงการนี้จะดำเนินการคล้ายกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางใหญ่ โดยเคเคทีเอสจะว่าจ้างเอกชนมาก่อสร้าง เก็บค่าโดยสาร งานซ่อมบำรุงรักษา งานบริการ และเดินรถต่างๆ ซึ่งรายได้จากค้าโดยสารก็จะส่งคืนให้เคเคทีเอส ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการล่าช้ากว่าแผน 1 ปี 3 เดือน เพราะรอ สนข.”นายสรุเดช กล่าว
อย่างไรก็ตาม การประกวดราคาดังกล่าว จะแบ่งเป็น 2 ซอง คือ 1.งานโยธา 2.บริหารจัดการ บำรุงรักษา ซ่อมบำรุง และบริการ คือ ซองที่ 1 เป็นซองรับจ้างก่อสร้าง และ 2. รับจ้างดำเนินการ